Saturday, March 26, 2005

DEMI-TARIF (ISILD LE BESCO)

JOHN RUIZ
6
http://www.scandinavian-boxing-rankings.dk/international-records/pictures/john-ruiz.jpg

http://www.scandinavian-boxing-rankings.dk/international-records/john-ruiz.htm

STEVE HOWEY (1977, 191 CM.)
http://www.imdb.com/name/nm0992538/

ยังไม่ได้ดูหนังเรื่อง DISTANCE เลยค่ะ แต่อ่านที่คุณเจ้าชายน้อยเขียนแล้วทำให้นึกถึงลัทธิโอม ชินริเกียว และทำให้นึกถึงหนัง 3 เรื่องนี้ด้วย

1.GOOD BYE FOR TOMORROW (1995, NOBUHIKO OBAYASHI, A+)
http://www.imdb.com/title/tt0112398/

ถ้าจำไม่ผิด หนังดราม่าจัดๆเรื่องนี้เล่าเรื่องของเรือโดยสารลำหนึ่งที่เกิดล่มและทำให้ทุกคนบนเรือตาย แต่หลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เหล่าญาติๆและคนรักของผู้ตายก็ได้รับสารลึกลับให้ไปชุมนุมกันใกล้ท่าเรือแห่งนั้น ญาติๆของผู้ตายเหล่านี้แทบไม่เคยรู้จักและพบหน้ากันมาก่อน แต่พวกเขาก็ได้ไปรวมตัวกันที่ชายหาด พวกเขาไม่รู้ว่าใครส่งสารมาให้พวกเขา และอะไรกำลังจะเกิดขึ้น

หนังเรื่องนี้มีตัวละครเยอะมาก แต่ทำออกมาได้ซึ้งสุดๆ


2.DARKNESS IN THE LIGHT (2001, KEI KUMAI, A-)
http://www.imdb.com/title/tt0278592/
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงของการโจมตีด้วยแก๊สพิษโดยกลุ่มโอม ชินริเกียว โดยกลุ่มลัทธินี้เคยทดลองปล่อยแก๊สพิษที่อื่นๆมาแล้ว จนทำให้ผู้บริสุทธิ์บางคนต้องพิการตลอดชีวิต ก่อนที่กลุ่มนี้จะปล่อยแก๊สครั้งใหญ่ในปี 1995

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องผ่านทางนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ไปสัมภาษณ์นักข่าวสถานีโทรทัศน์ที่เคยรายงานข่าวแก๊สพิษ โดยนักเรียนกลุ่มนี้พยายามสืบสวนว่านักข่าวมีความผิดมากน้อยแค่ไหนในการชี้นำความเห็นของสาธารณชน จนกระทั่งทำให้ชายผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งถูกสังคมเข้าใจผิดว่าเป็นคนปล่อยแก๊สพิษ


3.ANGEL DUST (1994, SOGO ISHII)

นักจิตวิทยาหญิงคนหนึ่งสืบสวนคดีที่หญิงสาวถูกฆ่าตายทุกวันในรถไฟใต้ดิน และสงสัยว่าคดีนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิลึกลับ

เคยดูหนังสารคดีสัมภาษณ์สมาชิกกลุ่มโอม ชินริเกียวที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาเมื่อหลายปีก่อน แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วว่าชื่อเรื่องอะไร

พูดถึง SILENT BLUE ทำให้นึกถึงความเชื่อเรื่อง THE BLUE HOUR ที่อยู่ในหนังของ ERIC ROHMER

ในหนังเรื่อง FOUR ADVENTURES OF REINETTE AND MIRABELLE (1986, ERIC ROHMER, A+) ตัวละครของเรื่องมีความเชื่อเรื่อง THE BLUE HOUR ซึ่งเป็นช่วงเวลา “ไม่กี่นาที” ที่ธรรมชาติจะอยู่ในภาวะ “เงียบ” ที่สุด ช่วงเวลานี้คือช่วงรอยต่อระหว่างกลางคืนกับยามรุ่งสางก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาที่นกกลางคืนบินกลับเข้ารังไปแล้ว และนกกลางวันยังไม่ได้บินออกหากิน

เรเนทท์ และมิราเบลล์ นางเอกสองคนของเรื่องนี้พยายามจะตื่นเช้าให้ทันสัมผัสกับ THE BLUE HOUR ให้ได้ แต่นางเอกทั้งสองจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ดิฉันไม่บอกค่ะ เดี๋ยวไม่สนุก

FOUR ADVENTURES OF REINETTE AND MIRABELLE ติดอันดับหนังสุดโปรดประจำปี 1989 ของ ANDREW SARRIS นักวิจารณ์ชื่อดังด้วย
http://alumnus.caltech.edu/~ejohnson/critics/sarris.html

พูดถึง NOBODY KNOWS (2004, A/A-) ทำให้นึกถึงหนังเรื่องนึงที่อยากดูมากๆ นั่นก็คือเรื่อง DEMI-TARIF (2003) ที่กำกับโดยสุดยอดนักแสดงหญิง ISILD LE BESCO จาก RIGHT NOW (A+) และ GIRLS CAN’T SWIM (A-/B+) โดยเธอมีอายุราว 21 ปีเท่านั้น

DEMI-TARIF มีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กหญิง 2 คนและเด็กชาย 1 คนที่เป็นพี่น้องกัน พวกเขามีอายุราว 7-9 ขวบ และอยู่ดีๆแม่ก็ทิ้งพวกเขาไป พวกเขาทั้งสามก็เลยต้องหาทางยังชีพด้วยตัวเองในแฟลตกรุงปารีส โดยพวกเขาทั้งสามคนมีพ่อไม่ซ้ำกันด้วย

การแสดงของเด็กๆในเรื่องนี้ยอดเยี่ยมอย่างสุดๆ และหนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกสมจริงราวหนังสารคดีเหมือน NOBODY KNOWS แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจาก NOBODY KNOWS อย่างรุนแรงก็คือเด็กๆใน DEMI-TARIF เปลือยกายด้านหน้าต่อหน้ากล้องเกือบตลอดเวลา นอกจากนี้ หนังเรื่องนี้ยังแทบไม่มี “เนื้อเรื่อง” เลยด้วย

CHRIS MARKER สุดยอดผู้กำกับหนังคนนึงของฝรั่งเศสยกย่อง DEMI-TARIF ว่าเป็น "the greatest debut since Godard's A bout de souffle"

No comments: