Friday, April 08, 2005

HOLLOW REED

--ชอบผู้หญิงสองคนที่ต้านทานพระเอกได้ใน CODE 46 ค่ะ

ผู้หญิงคนแรกใช้แบคทีเรียในการเอาชนะไวรัสของพระเอก แต่ถึงแม้แบคทีเรียของเธอจะชนะไวรัสของพระเอก พระเอกก็เอาชนะเธอได้โดยใช้วิธีการติดสินบนแทน

ผู้หญิงคนที่สองใช้ “ศาสนา” ในการต้านทานไวรัสของพระเอก และพระเอกก็ต้องล่าถอยกลับไป ไม่สามารถเอาชนะอะไรผู้หญิงคนนี้ได้เลย


--หนังเรื่อง CODE 46 ยังมีบางจุดที่คล้ายคลึง BREATHLESS (1959, JEAN-LUC GODARD, A-) ด้วยค่ะ


--ภาพกล้องวงจรปิดที่คอยจับตามองตัวละครอยู่ตลอดเวลา ทำให้นึกถึงหนังอีก 2 เรื่อง ซึ่งก็คือ

1.GAS ATTACK (2001, KENNETH GLENAAN, A+) หนังอังกฤษเกี่ยวกับผู้อพยพจากตะวันออกกลาง หนังมีการใช้ภาพที่ถ่ายจากกล้องวงจรปิดตัดสลับเข้ามาบ่อยครั้ง
http://www.imdb.com/name/nm0322533/

2.THE END OF VIOLENCE (1997, WIM WENDERS, A-) หนังพูดถึงเรื่องของกล้องวงจรปิดโดยตรง แต่จุดเด่นอีกจุดของหนังเรื่องนี้ก็คือ “การถ่ายภาพให้เหมือนกับงานจิตรกรรมของ EDWARD HOPPER”
http://www.imdb.com/title/tt0119062/


นอกจาก CODE 46, GAS ATTACK และ THE END OF VIOLENCE จะมีจุดเด่นเรื่อง “กล้องวงจร” ปิดเหมือนกันแล้ว หนัง 3 เรื่องนี้ยังมีจุดเด่นอีกจุดที่ตรงกันโดยบังเอิญ นั่นก็คือเรื่องของ “การอพยพ”

1.CODE 46 มีตัวละครที่อยู่นอกเมือง แต่อยากได้ “บัตรผ่าน” เพื่อจะได้อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีความเจริญ

2.GAS ATTACK เล่าเรื่องของผู้อพยพโดยตรง และการที่ผู้อพยพถูกตรวจสอบจับตามองจากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองอย่างเข้มงวด

3.THE END OF VIOLENCE มีตัวละครสาวเอลซัลวาดอร์ที่อพยพมาทำงานเป็นสาวใช้ในสหรัฐ ตัวละครตัวนี้ชื่อมาธิลดา (รับบทโดย Marisol Padilla Sanchez) ซึ่งทำงานเป็นสาวใช้ให้กับเรย์ เบริง (Gabriel Byrne) ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นคนคอยดูแลระบบกล้องวงจรปิดของลอสแองเจลิส โดยสาวใช้คนนี้มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมาก

ดิฉันชอบตัวละครมาธิลดาในตอนจบของ THE END OF VIOLENCE มากๆเลยค่ะ การแสดงในตอนจบของเธอน่าประทับใจมากๆ (อีกจุดนึงที่ประทับใจมากๆใน THE END OF VIOLENCE ก็คือความหล่อน่ารักของ LOREN DEAN)


--มีหนังหลายเรื่องที่ได้ดูในช่วงนี้ที่มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับการลบ, รื้อฟื้น, หรือปั้นแต่งความทรงจำ ซึ่งรวมถึงเรื่อง

1.UNINVITED (2003, LEE SU-YEON, A+)
2.NABI (2001, MOON SEUNG-WOOK, A+)
http://www.imdb.com/title/tt0293442/
3.ETERNAL SUNSHINE OF THE SPOTLESS MIND (A+)
4.THE FORGOTTEN (2004, JOSEPH RUBEN, A)
5.HANA AND ALICE (A)
6.CODE 46 (A-)
7.ABSOLUT (2004, ROMED WYDER, B+)

ในบรรดาหนังกลุ่มนี้ THE FORGOTTEN, CODE 46 และ ABSOLUT มีจุดตรงกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือในหนัง 3 เรื่องนี้ “ภาครัฐบาล” มีบทบาทในการแทรกแซงความทรงจำของประชาชน และนั่นทำให้คิดถึงหนังสารคดีเรื่อง CAPTURING THE FRIEDMANS (2003, ANDREW JARECKI, A+) ขึ้นมาด้วยเหมือนกัน เพราะในหนังสารคดีเรื่องนี้เป็นที่น่าสงสัยว่าความทรงจำของพยานบางคนในเรื่องเป็นเรื่องจริงหรือเป็นสิ่งที่ถูกยัดเยียดให้กลายเป็นความทรงจำกันแน่


--รู้สึกว่าหนังเรื่อง UNDER THE SKIN (1997, CARINE ADLER) ที่นำแสดงโดย SAMANTHA MORTON และสุดหล่อ STUART TOWNSEND ออกขายในรูปแบบดีวีดีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าหาซื้อได้ในกรุงเทพแล้วยัง

ดูปกดีวีดี UNDER THE SKIN ได้ที่
http://www.amazon.co.uk/exec/obidos/ASIN/B0006NKBVE/qid=1112957213/sr=2-1/ref=sr_2_11_1/026-6581568-1034867

อ่านคำวิจารณ์ UNDER THE SKIN ได้ที่
http://dir.salon.com/ent/movies/reviews/1998/05/21reviewb.html
http://www.rottentomatoes.com/m/under_the_skin/


UNDER THE SKIN มีเนื้อหาเกี่ยวกับปฏิกิริยาของพี่สาวน้องสาวคู่หนึ่งที่มีต่อการเสียชีวิตของแม่ (Rita Tushingham จากหนังคลาสสิค A TASTE OF HONEY ที่กำกับโดย TONY RICHARDSON) โดยไอริส (ซาแมนธา มอร์ตัน) มักจะอิจฉาโรส (CLAIRE RUSHBROOK ซึ่งเคยสร้างความประทับใจให้ดิฉันอย่างสุดๆมาแล้วจากบทลูกสาวผิวขาวของเบรนดา เบลธินใน SECRETS AND LIES) มาโดยตลอด แต่เมื่อแม่ของทั้งสองตาย ไอริสก็รู้สึกสับสน, มึนชา และกราดเกรี้ยว

ถึงแม้โรสดูเหมือนจะผูกพันกับแม่มากกว่าที่ไอริสผูกพันกับแม่ แต่พอแม่ตาย โรสซึ่งเป็นชนชั้นกลางที่มีการมีงานทำ ก็ดูเหมือนจะปรับตัวให้เข้ากับความเป็นไปของชีวิตได้อย่างไม่ยากนัก ส่วนไอริสซึ่งยังมีอายุน้อย กลับดูเหมือนว่าจะสูญเสียบางอย่างในตัวเธอเองไปหลังจากแม่ตาย เธอพยายามค้นหาตัวเองใหม่ด้วยการย้ายออกจากบ้านและทิ้งแฟนหนุ่มของเธอเอง และหันไปมีเซ็กส์กับชายแปลกหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ

นักวิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่าจุดเด่นของ UNDER THE SKIN รวมถึง

1.การที่กล้องเน้นถ่ายภาพซาแมนธา มอร์ตันอย่างรุนแรงมาก

2.ช่วงแรกๆของเรื่องยังดูเหมือนไม่มีอะไรมากนัก แต่หนังจะน่าสนใจมากๆในช่วงหลังๆของเรื่อง

3.ซาแมนธา มอร์ตันแสดงความรู้สึกเจ็บปวดได้อย่างรุนแรงมากๆๆๆ

4.การที่ไอริสใช้เสียงบรรยายเล่าเรื่องประสบการณ์ทางเพศของตัวเอง โดยเล่าเหมือนกับว่า “ตัวเธอเอง” กลายเป็น “บุคคลที่สาม”

5.นอกจากซาแมนธา มอร์ตัน จะมีฉากฝันใน CODE 46 แล้ว เธอยังมีฉากฝันใน UNDER THE SKIN ด้วยเช่นกัน


6.นอกจากซาแมนธา มอร์ตันจะเริงระบำในคลับได้อย่างน่าประทับใจใน CODE 46 แล้ว ฉากที่ซาแมนธา มอร์ตันเข้าไนท์คลับใน UNDER THE SKIN ก็สร้างความประทับใจให้กับนักวิจารณ์ใน SALON.COM ได้อย่างรุนแรงมาก




นักวิจารณ์ใน SALON.COM ตั้งข้อสังเกตว่า UNDER THE SKIN เป็นหนึ่งในผลงานของผู้กำกับหญิงหน้าใหม่ที่น่าสนใจมาก โดยหนังในกลุ่มนี้เน้น “การสำรวจความรู้สึกของตัวละคร” มากกว่า “พล็อตเรื่อง” และเขายังแนะนำหนังเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจในกลุ่มนี้ ซึ่งรวมถึง

1.MY NEW GUN (1992, STACY COCHRAN)

หนังอินดี้ตลกร้ายเรื่องนี้ใช้ฉากหลังเป็นย่านชานเมืองของชนชั้นกลางในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และนำแสดงโดยไดแอน เลน ในหนึ่งในบทบาทการแสดงที่เยี่ยมที่สุดของเธอ โดยในเรื่องนี้ไดแอน เลน แสดงเป็นแม่บ้านที่สามีของเธอซื้อปืนรีวอลเวอร์มาให้กระบอกหนึ่งเพื่อไว้ใช้ป้องกันตัว ถึงแม้ว่าเธอไม่ต้องการปืนกระบอกนี้ก็ตาม

ต่อมาสกิปปี้ (STEPHEN COLLINS) เพื่อนบ้านหนุ่มรูปหล่อได้ขอยืมปืนกระบอกนี้ไปจากไดแอน เลนโดยไม่ให้เหตุผล และไดแอน เลนก็ให้ยืมไป และนั่นก็ตามมาด้วยความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของไดแอน เลนและสามี

จุดเด่นในหนังเรื่องนี้รวมถึง

1.ฝีมือการถ่ายภาพที่สดสว่างของ ED LACHMAN

2.บทบาทของ TESS HARPER ในบทแม่ของสกิปปี้

3.การที่หนังเรื่องนี้ไม่ให้คำอธิบายใดๆ

4.ลักษณะที่คล้ายคลึงกับเดวิด ลินช์


2.BOYS (1995, STACY COCHRAN)

นำแสดงโดย LUKAS HAAS และ WINONA RYDER รู้สึกหนังเรื่องนี้จะเคยมาฉายทางโทรทัศน์แล้ว


3.SISTER MY SISTER (1994, NANCY MECKLER, A-)

สร้างจากเรื่องจริงของพี่น้องผู้หญิงสองคนที่เป็นเลสเบียนและร่วมรักกันเอง และต่อมาทั้งสองก็ฆ่านายจ้างหญิงตายไปสองคน เรื่องจริงเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้มีการสร้างละครเวทีและหนังเรื่องอื่นๆตามมา


4.KISSED (1996, LYNNE STOPKEWICH)

มอลลี ปาร์คเกอร์ในหนังที่สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวกับศพและความตาย หลายคนคงดูเรื่องนี้ไปแล้ว
http://www.imdb.com/title/tt0116783/


http://www.geocities.com/ericfoxonline/main1.html


http://www.bioscopemagazine.com/review/index-in.php?id=16152


5.HOLLOW REED (1995, ANGELA POPE)
http://www.imdb.com/title/tt0113314/

มาร์ติน (มาร์ติน โดโนแวน) เป็นคุณหมอที่เป็นเกย์ เขาแยกทางจากฮันนาห์ (โจลี ริชาร์ดสัน ลูกสาวของวาเนสซา เรดเกรฟ) ผู้เป็นภรรยาแล้ว โดยที่โอลิเวอร์ (Sam Bould) ซึ่งเป็นลูกชายของทั้งสองอาศัยอยู่กับแม่ อย่างไรก็ดี เมื่อวันหนึ่งโอลิเวอร์ที่มีอายุ 9 ขวบเดินทางมาเยี่ยมพ่อ มาร์ตินก็สงสัยว่าเลือดที่เปรอะเปื้อนบนใบหน้าของลูกชายอาจไม่ใช่เลือดที่เกิดจากการชกต่อยกับอันธพาลในโรงเรียน แต่เกิดจากบางอย่างที่เลวร้ายกว่านั้น

มาร์ตินสงสัยว่าแฟรงค์ (Jason Flemyng) ซึ่งเป็นคนรักของฮันนาห์อาจทุบตีทำร้ายโอลิเวอร์ อย่างไรก็ดี ฮันนาห์ปฏิเสธเรื่องนี้ และมาร์ตินก็ตัดสินใจฟ้องร้องเพื่อขอสิทธิเลี้ยงดูบุตรชายตนเอง

ปัญหาก็คือว่าโอลิเวอร์รู้สึกหวาดกลัวมาก และเขาก็ไม่ต้องการพูดจาขัดแย้งกับแม่ของตัวเอง ดังนั้นเขาก็เลยไม่ยอมให้การเรื่องของแฟรงค์ นอกจากนี้ ศาลก็เห็นว่าลูกน่าจะอยู่กับแม่และผัวของแม่ มากกว่าจะอยู่กับพ่อและผัวของพ่อ (Ian Hart) อีกด้วย

ทางด้านฮันนาห์เองนั้นแม้จะทราบว่าแฟรงค์ทำร้ายลูกชายตัวเอง เธอก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าเธอเลือกผัวผิดเป็นครั้งที่สอง เธอเต็มใจปล่อยให้แฟรงค์อยู่กับลูกชายของเธอต่อไป

หนังที่ละเอียดอ่อนและสะเทือนใจเรื่องนี้มีจุดเด่นที่ฝีมือการแสดงที่เยี่ยมยอดของโดโนแวน, ริชาร์ดสัน และ SAM BOULD

อ่านบทวิจารณ์หนังเรื่องนี้ได้ที่
http://www.salon.com/may97/hollow970502.html


ดูรูปของ IAN HART จากหนังเรื่อง HOLLOW REED ได้ที่
http://www.ianhart.net/Media/photos_movies.htm

http://www.ianhart.net/Images/Photos/Hollow%20Reed/Hart11.jpg


--ชอบ TO BE AND TO HAVE ในระดับประมาณ A เหมือนกันค่ะ อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับคุณครูผู้ดูเหมือนใจดีแต่จริงๆแล้วหิวเงินในหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=4432




เคยดูหนังสั้นเรื่อง “ทวิภพในเอกภพ” (A) ที่กำกับโดยคุณปราปต์ บุนปาน แล้วชอบมากๆเลยค่ะ หนังสั้นเรื่องนี้ตั้งคำถามต่ออะไรหลายๆอย่างใน “ทวิภพ” และใช้วิธีการนำเสนอที่ถูกใจดิฉันมากๆ โดยเขาให้ชายหญิงคู่หนึ่งถกเถียงกันเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หลังจากดูหนังเรื่อง “ทวิภพ” จบ และในบางฉาก เขาก็เอากล้องไปถ่ายหน้าตำราประวัติศาสตร์ เพื่อที่ผู้ชมจะได้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอ่านตำราประวัติศาสตร์เหล่านี้ด้วยตัวเอง

ชอบทวิภพ (A) มากค่ะ แต่ก็ชอบ “ทวิภพในเอกภพ” มากเหมือนๆกัน

ขอบคุณมากค่ะสำหรับบทความดารา THE FIVE VENOMS ที่ทำลิงค์ไว้ให้


เพื่อเป็นการเอาใจหลายๆคนที่รักหนังเอเชีย คราวนี้ดิฉันก็เลยขอเปลี่ยนบรรยากาศมาแนะนำดีวีดีหนังเอเชียค่ะ

ได้ข่าวว่ามีดีวีดีหนังซามูไรชุด HANZO THE RAZOR จะออกวางจำหน่ายในวันที่ 19 เม.ย.นี้ค่ะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีวีดีชุดนี้ได้ที่

http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0007PAMKQ/qid=1112968996/sr=2-1/103-4737906-6731823?v=glance&s=dvd

ถ้าเข้าใจไม่ผิด HANZO THE RAZOR มีเนื้อหาเกี่ยวกับฮันโซ อิตามิ (รับบทโดยชินทาโร่ คัทสึ จากหนังชุด ZATOICHI ยุคเก่า) ซามูไรตำรวจที่ชอบทรมานผู้ต้องหาด้วยวิธีการที่โหดร้ายทารุณในยุคเอโดะ หนังชุดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของหนังกลุ่ม EXPLOITATION

จุดเด่นของพระเอกหนังชุดนี้ก็คืออาวุธของเขาที่อาจจะเรียกว่าเป็น “IRON PENIS” หรือ “FLESH SWORD” ที่เขาฝึกฝนจนเชี่ยวชาญเพื่อไว้ใช้ในการสอบสวนผู้ต้องหาหญิง โดยนักวิจารณ์บอกว่าพระเอกหนังชุดนี้ใช้ “FLESH SWORD” บ่อยมาก

http://www.epinions.com/content_24636264068

http://www.imdb.com/title/tt0174707/

ถ้าเข้าใจไม่ผิด ดีวีดีชุด HANZO THE RAZOR นี้ประกอบด้วยหนังไตรภาค ซึ่งได้แก่

1.THE RAZOR: SWORD OF JUSTICE (1972, KENJI MISUMI)
http://www.imdb.com/title/tt0068650/

2.RAZOR 2: THE SNARE (1973, YASUZO MASUMURA)
http://www.imdb.com/title/tt0174707/

3.RAZOR 3: WHO’S GOT THE GOLD? (1974, YOSHIO INOUE)
http://www.imdb.com/title/tt0174708/
http://www.toxicuniverse.com/review.php?rid=10002207


ดูรายชื่อผลงานของ SHINTARO KATSU (1931-1997) ได้ที่
http://www.imdb.com/name/nm0441526/

No comments: