Sunday, July 24, 2005

TOSSAPOL BOONSINSUK

http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=19753

หนังที่ได้ดูในวันเสาร์

1. 0.29s (บุญชัย กัลยาศิริ, A+)

2.สัมพัทธ์ภาพบนหลักของความไม่แน่นอน (ศาสตร์ ตันเจริญ, A+)

3.NICE TO MEET YOU (ทศพล บุญสินสุข, A+)

4.PILLOW TALK (อารยะ สุริหาร, A+)

5.โอกาส (นิติพงศ์ ถิ่นทัพไทย, A+)

6.แม่จ๋ากอดหนูหน่อย (ณัชพล โชติสุระกัลยา, A+)
ชอบความตอแหลของคุณแม่และคุณลูกในหนังเรื่องนี้อย่างมากๆๆๆๆ

7.EAT (ชุมพล เจริญกุล, A+)

8.โตเต้ (ณัฏฐา หอมทรัพย์, ธัญ เปลวเทียนยิ่งทวี, A+)
หวังว่าจะมีการสร้างภาคต่อๆไปของหนังเรื่องนี้ออกมาอีก นี่คือหนังที่เสียสติในแบบที่ชอบมากๆ

9.ณ จุดสีหนึ่ง (วรรณนิศา เอี่ยมละออง, A+/A)

10.ราโจมอน (อุดมคลัง วัฒนาพรรณิกร, A+/A)

11.ON THE SIDEWALK (พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, A+/A)

12.อย่างไรก็แล้วแต่ (ชลาลัย รุธิรพงษ์, A)

13.STUDENT (เจมส์ พฤทธิวรสิน, A)

14.THE SOUND (ธารา ศิรินิกรวงศ์, A)

15.THE OPPOSITE DOOR (วัลยา สุภาพ, A)

16.ABOUT EVE (อรรณพ สงวนชาติ, A)

17.THE TRUTH ABOUT LOVE (2004, JOHN HAY, A-)
http://www.imdb.com/title/tt0407269/


DESIRABLE ACTOR

1.TOM BOYD—THE TRUTH ABOUT LOVE
http://www.imdb.com/gallery/hh/1684912/HH/1684912/DSC00568.JPG?path=pgallery&path_key=Boyd,%20Tom%20(VI)

2.VINCENT DENIARD—RED LIGHTS (2004, CEDRIC KAHN, A+) ดูหนังเรื่องนี้นานแล้ว แต่เพิ่งมีเวลาว่างไปค้นชื่อนักแสดงคนนี้
http://www.artificial-eye.com/dvd/ART285dvd/p-04.jpg

3.SAVA LOLOV—RED LIGHTS ชอบคุณหมอหนุ่มในหนังเรื่องนี้มาก แต่ไม่แน่ใจว่านักแสดงชื่อนี้หรือเปล่า



FAVORITE SUPPORTING ACTRESS

1.BRANKA KATIC—THE TRUTH ABOUT LOVE
http://www.imdb.com/name/nm0441287/
ดาราชาวเซอร์เบียคนนี้เคยเล่นหนังโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง IN JULY (2000, FATIH AKIN, A)

2.KATE MILES—THE TRUTH ABOUT LOVE
http://www.imdb.com/name/nm0587168/


FAVORITE MUSIC

สัมพัทธ์ภาพบนหลักของความไม่แน่นอน


FAVORITE SONG

SHOJO A ร้องโดย AKINA NAKAMORI อยู่ในหนังเรื่อง “ราโจมอน”


FAVORITE EDITING

PILLOW TALK


เพลงที่ควรใช้ประกอบหนัง

ได้ดูหนังเรื่อง THE TRUTH ABOUT LOVE แล้วนึกถึงเพลง BABOOSHKA ของ KATE BUSH ค่ะ รู้สึกว่าเพลง BABOOSHKA เหมาะจะใช้ประกอบหนังเรื่องนี้มากๆ



ความรู้สึกจากการดูหนัง

ในขณะที่คุณศะศิธร อริยะวิชา คือผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่ทำให้ดิฉันมีความสุขที่สุดในปี 2004 ตอนนี้ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่ทำให้ดิฉันมีความสุขที่สุดในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2005 อาจจะเป็นคุณทศพล บุญสินสุข และคุณอุรุพงศ์ รักษาสัตย์ค่ะ คุณทศพล บุญสินสุขเคยได้รับรางวัลจาก THE LAST SKY PASSENGER (A) ในปีที่แล้ว และในปีนี้เขาก็ทำให้ดิฉันประทับใจมากๆกับ

1.ห้ามอุ่นไข่ในไมโคเวฟเดี๋ยวระเบิดตูม!

ดิฉันไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้นในหนังของคุณทศพล แต่ก็ดูเพลินมากๆ ปกติแล้วดิฉันจะไม่มีอารมณ์ร่วมกับหนังโรแมนติก แต่ดิฉันกลับรู้สึกถูกโฉลกกับอารมณ์โรแมนติกบางอย่างในหนังของเขา ปกติแล้วเมื่อดิฉันได้ดูหนังของผู้กำกับคนอื่นๆ ดิฉันจะรู้สึก “ห่างเหิน” เมื่อได้ดูฉากที่ตัวละครยิ้ม และรู้สึก “ใกล้ชิด” เมื่อได้ดูฉากที่ตัวละครทุกข์ทรมาน แต่หนังที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้คนเรื่องนี้ กลับไม่ทำให้ดิฉันรู้สึกห่างเหินเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ แต่กลับทำให้ดิฉันต้องเผลอยิ้มอย่างมีความสุขไปด้วย

ดิฉันจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกเลยในหนังเรื่องนี้ ถ้าจำไม่ผิด หนังเรื่องนี้มีทั้งส่วนที่เป็นเหมือนชีวิตประจำวัน, แอนิเมชั่น, มิวสิควิดีโอ, etc. มาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน ดิฉันไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียวว่าส่วนต่างๆในหนังเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกันยังไง มันเชื่อมร้อยเข้าด้วยกันด้วย “หลักเหตุผล” อะไร แต่รู้สึกว่า “อารมณ์” ในหนังเรื่องนี้มันต่อเนื่องเข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดีในความรู้สึกของดิฉัน

ปกติแล้ว เมื่อพูดถึงหนังที่ประกอบขึ้นด้วยส่วนต่างๆที่ไม่ปะติดปะต่อกัน ดิฉันมักจะนึกถึงหนังของ ALEXANDER KLUGE และ DUSAN MAKAVEJEV แต่หนังของสองคนนี้ต่างกันตรงที่เมื่อดิฉันดูหนังของ DUSAN MAKAVEJEV ดิฉันจะพอเดาได้บ้างในบางครั้งว่าส่วนต่างๆในหนังมันเชื่อมโยงกันด้วยหลักเหตุผลอะไร แต่รู้สึกว่าอารมณ์ในหนังของเขามันสะดุดๆ ในขณะที่หนังของ ALEXANDER KLUGE เป็นหนังที่ดิฉันเดาไม่ออกแม้แต่นิดเดียวว่าส่วนต่างๆในหนังมันเชื่อมโยงกันด้วยเหตุผลอะไร แต่รู้สึกว่าอารมณ์ในหนังของเขามันต่อเนื่องและให้อารมณ์รุนแรงสุดๆมาก

เนื่องจากดิฉันรักหนังของ ALEXANDER KLUGE มาก ดิฉันก็เลยหวังว่าจะมีการสร้างหนังไทยในแบบใกล้เคียงกับเขาออกมาบ้าง และก็เลยทำให้ดีใจมากที่ได้ดู “ห้ามอุ่นไข่ในไมโคเวฟเดี๋ยวระเบิดตูม!” อย่างไรก็ดี หนังไทยเรื่องนี้ไม่ได้ให้อารมณ์ในแนวทางเดียวกับหนังของ ALEXANDER KLUGE แต่อย่างใด เพียงแต่ “โครงสร้าง” เท่านั้นที่ทำให้นึกถึงหนังของ KLUGE ส่วนอารมณ์ของหนังไทยเรื่องนี้นั้น ดิฉันรู้สึกว่ามันช่างโรแมนติกสุดๆ เลย

นี่เป็นหนึ่งในหนังที่ดิฉันไม่สามารถให้คำจำกัดความอะไรได้เลยค่ะ


2.THE AUDIENCE

ขณะที่ดูหนังเรื่องนี้ ก็นึกไปถึงหนังเกี่ยวกับงานคอนเสิร์ตต่างๆ แต่ในขณะที่หนังเกี่ยวกับงานคอนเสิร์ตต่างๆ จะเต็มไปด้วยเสียงเพลงและกล้องที่หันหน้าเข้าหาศิลปิน หนังเรื่องนี้กลับไม่มีเสียง (หวังว่าคงไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดทางการฉายนะคะ) และกล้องที่หันหน้าเข้าหาผู้ชม

ขณะที่ดูหนังของคุณทศพล ในบางครั้งก็นึกไปถึงหนังของ MARGUERITE DURAS ด้วยเหมือนกัน หนังของสองคนนี้ไม่ได้คล้ายกันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ที่นึกไปถึง ก็เพราะว่าหนังของสองคนนี้ทำให้ดิฉันประหลาดใจมากๆว่าทำไมดิฉันจึงรู้สึกอินสุดๆกับหนังของทั้งสองคนนี้ ทั้งๆที่หนังของทั้งสองคนนี้เอื้อให้เกิดความรู้สึกน่าเบื่อได้ง่ายมากๆ หนังเรื่อง THE AUDIENCE ให้กล้องแช่จับใบหน้าอาการของผู้ชมกลุ่มหนึ่งเป็นเวลานานๆ และมีการแช่กล้องปรากฏอยู่ในหนังเรื่องอื่นๆของเขาด้วยเหมือนกัน ส่วนหนังของ DURAS ก็เต็มไปด้วยการจับภาพประตูนานๆ, จับภาพหน้าต่างนานๆ, จับภาพสถานที่นานๆ แต่ทั้งคุณทศพลและ MARGUERITE DURAS มีวิธีการบางอย่างที่ดิฉันไม่เข้าใจ วิธีการที่สามารถทำให้ภาพที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเลยกลายเป็นภาพที่ก่อให้เกิดความรู้สึกอินสุดๆได้

ชอบภาพแฟนเพลงยิ้มเผล่ที่ตัดสลับกันไปมาใน THE AUDIENCE ด้วยค่ะ ภาพเหล่านี้คล้ายกับภาพที่พบได้บ่อยๆในมิวสิควิดีโอโปรโมทศิลปิน ซึ่งปกติแล้วดิฉันจะรู้สึก “ผลักไส” ภาพเหล่านี้ แต่พอภาพเหล่านี้ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้โดยไม่มีเสียงประกอบ ดิฉันกลับรู้สึกดีมากๆกับภาพเหล่านี้ แทนที่จะรู้สึกผลักไสเหมือนเมื่อเห็นในมิวสิควิดีโอ


3.NICE TO MEET YOU

ฉากที่ชอบมากในเรื่องนี้คือฉากที่ผู้ชายนั่งเล่นกีตาร์อยู่คนเดียวกลางลานกว้าง, ฉากผู้หญิงกับผู้ชายนั่งติดกันในช่วงต้นเรื่อง แล้วผู้หญิงทำหน้าตายหรือหน้าเฉยๆเป็นเวลานานมาก, ฉากผู้ชายเล่นกีตาร์ให้ผู้หญิงฟัง และผู้หญิงยืนอยู่เป็นเวลานาน, ฉากที่เหมือนพวกเขาเป่ายิ้งฉุบกัน และมีการกระโดดๆกัน (ไม่แน่ใจว่าตัวเองมองถูกหรือเปล่า เพราะเป็นภาพที่ถ่ายจากระยะไกล)

ได้ดูหนังไทยเกี่ยวกับชายหนุ่มหญิงสาวมากมายหลายเรื่อง แต่แทบไม่มีเรื่องไหนเลยที่จะทำให้ดิฉันรู้สึกอินและมีความสุขมากเท่าหนังเรื่องนี้ บางทีนี่อาจจะไม่ใช่หนังรัก, บางทีนี่อาจจะไม่ใช่หนังโรแมนติก แต่นี่คือหนังที่ทำให้ดิฉันรู้สึกว่ามันช่างสุดแสนจะน่ารักและก่อให้เกิดความรู้สึกดีๆอย่างรุนแรง


4.CHICKEN SMILE

ถึงแม้จะรู้สึกงงกับหนังเรื่องนี้ แต่ก็ชอบช่วงต้นเรื่องมากที่เป็นการถ่ายภาพจากระยะไกลเป็นเวลานาน


ส่วนคุณอุรุพงศ์ รักษาสัตย์ เคยกำกับหนังสั้นเรื่อง “กาล” (A+++++++++) และเรื่อง “ก่อน” (A+) ที่เคยได้รับรางวัลในปี 2000 ส่วนในปีนี้นั้น ดิฉันได้ดูหนังของเขา 3 เรื่อง และก็ชอบสุดๆทั้งสามเรื่อง หนังของเขายังคงถ่ายทอดบรรยากาศในชนบทและชีวิตคนในชนบทออกมาได้อย่างน่าหลงใหลสุดๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำได้ยังไง มีหนังสั้นหลายเรื่องมากๆที่พูดถึงชีวิตคนในชนบท แต่ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันสามารถสัมผัสชนบท, รู้สึกถึงชนบท หรือสูดกลิ่นไอของชนบทได้มากที่สุดจากหนังของเขา

อีกจุดนึงที่คิดว่าน่าสนใจดีในหนังของเขา ก็คือสัดส่วนระหว่าง “เรื่องจริง” กับ “เรื่องแต่ง” ที่ผสมกันอยู่ในหนัง หนังของเขาบางเรื่องดูเหมือน “เรื่องแต่ง” แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ให้ความรู้สึก “จริง” มากๆไม่แพ้หนังสารคดี

http://www.thaifilm.com/awardsDetail.asp?id=38

หนังของเขาที่ได้ดูในปีนี้ก็คือ
1.นักดนตรี
2.วันที่ยาวนาน
3.จักรยานลานนา

ถ้าเข้าใจไม่ผิด หนังเรื่อง “กาล” จะมาฉายอีกครั้งที่ TK PARK ชั้น 6 ห้างเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่าในวันเสาร์ที่ 3 ก.ย.ค่ะ โดยฉายรวมกับหนังสั้นหลายเรื่องด้วยกัน และเริ่มฉายเวลา 15.00 น.



ตอบน้อง merveillesxx

--หนังเรื่อง CRUEL INTENTIONS (ROGER KUMBLE, B-/C+) เกี่ยวกับกลกามแห่งความรักของนักเรียนไฮสกูลที่มีซาราห์ มิเชล เกลลาร์เป็นผู้บงการค่ะ หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์เรื่อง DANGEROUS LIAISONS เหมือนกับหนังเรื่อง UNTOLD SCANDAL (2003, LEE JE-YONG, A/A-) และมีฉากคลาสสิคคือฉากที่ซาราห์ มิเชล เกลลาร์จูบกับเซลมา แบลร์ นักแสดงอีกคนที่ดิฉันชอบสุดๆในหนังเรื่องนี้ก็คือ CHRISTINE BARANSKI ที่รับบทเป็นแม่ของเซลมา แบลร์ เพราะหน้าตาของเธอดูตอแหลมาก
http://www.imdb.com/name/nm0004724/

--จำ RYAN PHILLIPPE ได้ครั้งสุดท้ายก็จาก GOSFORD PARK (2001, ROBERT ALTMAN, A+)

--นักแสดงอีกคนที่รู้สึกว่ามาแรงในทศวรรษ 1990 เหมือน RYAN PHILLIPPE แต่ชื่อเสียงแผ่วไปมากในทศวรรษ 2000 ก็คือ JULIA ORMOND
http://www.imdb.com/name/nm0000566/

-- SAW (2004, JAMES WAN, A+)

--THE ROAD HOME (B-) ตามความหล่อ (น้อย) ของพระเอก โฮะ โฮะ โฮะ แต่ปกติแล้วดิฉันมักจะอินกับหนังสยองขวัญและไม่อินกับหนังโรแมนติกอยู่แล้วล่ะค่ะ

--WINGED MIGRATION (2001, JACQUES PERRIN, B+)

--หนังเกี่ยวกับสัตว์โลกผู้น่ารักที่อยากดูมากในตอนนี้คือ MARCH OF THE PENGUINS (2005, LUC JACQUET)
http://www.imdb.com/title/tt0428803/

--หนังสัตว์โลกที่ชอบสุดๆคือ THE BEAR (1988, JEAN-JACQUES ANNAUD, A+)
http://www.imdb.com/title/tt0095800/

--ถ้าจำไม่ผิด หนังสารคดีเกี่ยวกับสัตว์ทะเลเรื่อง THE SILENT WORLD (1956, LOUIS MALLE + JACQUES-YVES COUSTEAU) เคยมีขายในไทยในแบบวิดีโอลิขสิทธิ์ และหนังเรื่องนี้เหมาะดูควบกับ THE LIFE AQUATIC WITH STEVE ZISSOU (2004, WES ANDERSON)
http://www.imdb.com/title/tt0049518/

--THE HOURS (A+)

--ถ้าชอบการแสดงของ JULIANNE MOORE อย่าลืมหา SAFE (TODD HAYNES, A+) มาดู และอาจจะหาวีซีดีลิขสิทธิ์เรื่อง THE FORGOTTEN (2004, JOSEPH RUBEN, A) มาดูไปพลางๆด้วยได้

--ชอบประโยคต่างๆจาก THE HOURS ที่เอามาโพสท์มากเลยค่ะ

--ยังไม่ได้ฟังทั้ง ROYKSOPP และ ANNIE เลยค่ะ แต่ถ้าจำไม่ผิด หนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ BIZWEEK” (อย่าจำสลับกับนสพ. “กรุงเทพธุรกิจ” เฉยๆนะคะ) ฉบับประจำวันศุกร์ที่ผ่านมา มีบทความเกี่ยวกับ ROYKSOPP ด้วย นอกจากนี้ นสพ.นี้ยังเคยแนะนำ ANNIE เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน โดยมีคุณอาทิตย์ พรหมประสิทธิ์เป็นคนเขียนแนะนำ (ถ้าจำไม่ผิด)

--ได้ซื้อนิตยสาร SUPERSWEET เล่ม 4 ด้วย สาเหตุที่ซื้อก็มีเพียงประการเดียว นั่นก็คืออยากอ่านบทสัมภาษณ์บก. GENERATION TERRORISTS

--ในบรรดาหนังที่กำกับโดยเด็กๆที่ฉายที่ HOUSE นั้น มีเรื่องนึงที่ดิฉันชอบสุดๆเลยค่ะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด หนังเรื่องนั้นมีชื่อเรื่องว่า “อิจฉาเพราะรวย” และมีเนื้อหาเกี่ยวกับเจ้าแม่และนักฆ่าหญิง

--เคยดูหนังของ GIANNI AMELIO 5 เรื่อง เรียงตามลำดับความชอบได้ดังนี้

1.THE WAY WE LAUGHED หรือ COSI RIDEVANO (1998, A+) หนังเรื่องนี้มีขายในไทยในแบบวีซีดีลิขสิทธิ์ และนำเสนอความผูกพันระหว่างพี่ชายน้องชายออกมาได้อย่างซึ้งสุดๆ ดูแล้วแทบร้องไห้

ชอบโครงสร้างของหนังเรื่องนี้มากๆ เพราะหนังจะเล่า “ห้วงชีวิต” ของตัวละคร เป็นปีๆไป แทนที่จะเล่าเรื่องต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โครงสร้างของหนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึง A LOT LIKE LOVE (2005, NIGEL COLE, A+) ที่นำเสนอชีวิตของตัวละครแบบกระโดดข้ามปีไปเรื่อยๆเหมือนกัน

2.THE KEYS TO THE HOUSE (2004, A+)

3.LAMERICA (1994, A)

หนังนำเสนอเรื่องราวชีวิตบัดซบของตัวละครกลุ่มหนึ่งที่พยายามเดินทางไปแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า

4.THE STOLEN CHILDREN (1992, A-)

หนังเล่าเรื่องราวความผูกพันระหว่างชายหนุ่มกับเด็กๆที่เดินทางไปด้วยกัน หนังโร้ดมูฟวี่เรื่องนี้อาจจะเหมาะดูควบกับหนังอิหร่านเรื่อง THE CHILD AND THE SOLDIER (2000, SEYYED REZA MIR-KARIMI, A-)

http://www.imdb.com/title/tt0266705/


THE CHILD AND THE SOLDIER ติดสิบอันดับหนังที่ JONATHAN ROSENBAUM ชื่นชอบที่สุดในปี 2000 ด้วย โดยอันดับของเขาในปีนั้นมีดังนี้
http://alumnus.caltech.edu/~ejohnson/critics/rosenbaum.html



5.OPEN DOORS (1990, A-)

หนังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างผู้พิพากษากับฆาตกร


หนังที่อาจจะเหมาะดูควบกับ OPEN DOORS ก็คือเรื่อง THE JUDGE AND THE ASSASSIN (1976, BERTRAND TAVERNIER, A-) ที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างผู้พิพากษากับฆาตกรต่อเนื่อง
http://www.imdb.com/title/tt0073219/



ตอบคุณเจ้าชายน้อย

ยังไม่ได้ดู GERRY เลยค่ะ แต่เห็นคุณเจ้าชายน้อยเขียนว่า “ผมต้องออกมาหยุดมองดูเมฆเคลื่อนไหวช้าๆ” ก็เลยนึกถึงหนังสองเรื่องที่อยากดูอย่างสุดๆค่ะ นั่นก็คือเรื่อง TEN SKIES (2004, JAMES BENNING) และ CLOUDS: LETTERS TO MY SON (2001, MARION HANSEL) ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับก้อนเมฆทั้งสองเรื่อง

อ่านข้อมูลของ CLOUDS: LETTERS TO MY SON ได้ที่
http://bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=3016

ข้อมูลของ TEN SKIES
http://cinema.cornell.edu/Apr05/tenskies.html

อ่านบทสัมภาษณ์ JAMES BENNING ได้ที่
http://www.sensesofcinema.com/contents/04/33/james_benning.html




FASSBINDER’S LIST

เนื่องจากภาพยนตร์ความยาว 15 ชั่วโมงครึ่งเรื่อง BERLIN ALEXANDERPLATZ ของ RAINER WERNER FASSBINDER กำลังจะมาฉายที่ธรรมศาสตร์ในวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค. ก็เลยขอแนะนำเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ FASSBINDER ก่อนชมอภิมหาภาพยนตร์ของเขาค่ะ (ส่วนประวัติของฟาสบินเดอร์นั้นจำได้ว่านิตยสาร BIOSCOPE เคยลงไปแล้วอย่างยาวมาก ถ้าจำไม่ผิด คุณมโนธรรม เทียมเทียบรัตน์เป็นผู้เขียนบทความนั้น)
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=19837

หนัง 10 เรื่องที่ FASSBINDER ชื่นชอบที่สุดในชีวิต
http://jclarkmedia.com/fassbinder/
Luchino Visconti, The Damned (1969)
Raoul Walsh, The Naked and the Dead (1958)
Max Ophuls, Lola Montes (1955)
Michael Curtiz, Flamingo Road (1949)
Pier Paolo Pasolini, Salo, or the 120 Days of Sodom (1975)
Howard Hawks, Gentlemen Prefer Blondes (1953)
Josef von Sternberg, Agent X27 (US release title: Dishonored) (1931)
Charles Laughton, The Night of the Hunter (1955)
Nicholas Ray, Johnny Guitar (1954)
Vasili Shukshin (or Shuksin, Shukchin), Red Elderberry (Kalina Krasnaya) (1974)

อ่านประวัติของฟาสบินเดอร์เพิ่มเติมได้ที่
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=1880


หนังญี่ปุ่นที่อยากดูมากในตอนนี้คือเรื่อง FIRE FESTIVAL (HIMATSURI) (1984, MITSUO YANAGIMACHI) เพราะหนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ออกเกย์ๆระหว่างช่างตัดฟืนที่ดูเป็นแมนอย่างมากๆๆกับเด็กหนุ่มวัยรุ่น

http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/6302664837/ref=pd_sxp_f/103-9024760-6883833?v=glance&s=video


เห็นหนังสือ MINGHELLA ON MINGHELLA มีขายที่ร้านคิโนะคุนิยะ สาขาเอ็มโพเรียมด้วย

http://www.amazon.com/exec/obidos/ASIN/0571207111/qid=1122155233/sr=2-1/ref=pd_bbs_b_ur_2_1/103-9024760-6883833



หนังสือเล่มอื่นๆที่อยากซื้อมากๆที่คิโนะคุนิยะ

1.CINEMA: THE ARCHAEOLOGY OF FILM AND THE MEMORY OF A CENTURY—JEAN-LUC GODARD + YOUSSEF ISHAGHPOUR
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/1845201973/qid=1122155282/sr=1-1/ref=sr_1_1/103-9024760-6883833?v=glance&s=books


2.PROFONDO ARGENTO: THE MAN, THE MYTHS AND THE MAGIC หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ DARIO ARGENTO

http://www.amazon.com/exec/obidos/ASIN/1903254248/qid=1122155488/sr=2-1/ref=pd_bbs_b_ur_2_1/103-9024760-6883833


3.BEYOND PARADISE: THE LIFE OF RAMON NOVARRO
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/0312282311/qid=1122155559/sr=1-1/ref=sr_1_1/103-9024760-6883833?v=glance&s=books


หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตจริงของ RAMON NOVARRO (1899-1968) ดาราหนุ่มชื่อดังในอดีตที่เป็นเกย์!!!!!!

http://www.goldensilents.com/stars/ramonnovarro.html
http://www.divasthesite.com/images/NormaShearer/novarro.jpg
http://www.wolfsden3.homestead.com/files/PinUps/Male/Navarro.jpg
http://www.silentsaregolden.com/photos/ramonnovarrophoto.jpg
http://www.goldensilents.com/stars/ramonmay.jpg


หนังเกย์เรื่อง MY FIRST BOYFRIEND (A++++++++++++) จะมาเปิดฉายให้ชมฟรีที่ TK PARK ชั้น 6 ห้างเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ในวันเสาร์ที่ 13 ส.ค.นี้ เวลา 15.00 น.

No comments: