Sunday, July 17, 2005

THE WHITE SOUND

นสพ.ผู้จัดการฉบับวันเสาร์ที่ 16 ก.ค. ลงข่าวที่น่าสนใจไว้ในคอลัมน์ “เมืองปากโป้ง” ในฉบับแถม METROLIFE ค่ะ ข่าวนี้เขียนโดย “ปาปลาร้าซี่” โดยอยู่ที่หน้า 31 ของ METROLIFE

เนื้อข่าวมีว่าดังนี้

“ตะลึง! กันทั้งเมืองกับ 2 หนุ่ม ที่ตกเป็นข่าวแต๋วจ๋าสาวแตกกันทั้งคู่ ระหว่างนักร้องหนุ่มเสียงดีจากบ้านอคาเดมี “อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” และพระเอกหนุ่มผิวเข้ม “โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์” ที่งานนี้ก็มีข่าวเมาท์เล็ดลอดออกมาจากตึกแกรมมี่ว่าทั้งคู่กำลังกิ๊กกันอยู่ โอ้ว แถมพระเอกหนุ่มก็ยังเคยให้สัมภาษณ์ประมาณว่าปลื้มอ๊อฟสุดๆ แต่ไหงได้วันก่อน “ปาปลาร้าซี่” เจออ๊อฟในงานเปิดตัวหนังสือเล่มหนึ่ง เห็นเดินคนเดียว เลยได้ที่เข้าไปสอบสวน เอ๊ย! ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของนักร้องหนุ่ม ซึ่งเขาบอกว่าไม่มีอะร้าย อะไรในกอไผ่หรอกฮ่ะ แค่เคยรู้จัก ทำงานด้วยกัน และปลื้มผลงานของกันและกันเท่านั้น! “ปาปลาร้าซี่” ถามจบ เลยนึกขึ้นได้ว่า ความแปลก! แปร่งๆ อย่างนี้คงไม่มีใครกล้าพูดเรื่องจริง เอาเป็นว่าความรักไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีข่าวดี แจกการ์ดเมื่อไหร่ก็บอกกันบ้างนะจ๊ะ จะได้เลี้ยงฉลองความสุขด้วยคน 555”


ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยค่ะ แต่บางทีก็ได้ไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังบางเรื่องในเว็บบอร์ด bioscope อยู่บ้าง ล่าสุดก็ไปโพสท์ไว้ที่กระทู้นี้ค่ะ

http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=19753

นสพ.โพสท์ทูเดย์ ฉบับวันเสาร์ที่ 16 ก.ค. ลงบทวิจารณ์หนังเกย์เรื่อง THE EVENT (2003, THOM FITZGERALD) ด้วยค่ะ บทวิจารณ์เขียนโดยคุณปิ่นอนงค์ วัชรปาณ
http://www.imdb.com/title/tt0314039/



ดิฉันเคยชอบ CHRIS EVANS อย่างมากๆเลยค่ะจากหนังเรื่อง CELLULAR (2004, DAVID R. ELLIS, A) ตอนนี้ก็อยากหาหนังเก่าของเขาเรื่อง THE PERFECT SCORE มาดูเหมือนกัน เพราะเห็นว่าเขาเล่นคู่กับสการ์เลทท์ โยฮันสันในหนังเรื่องนี้ด้วย

THE PERFECT SCORE

(ข้อมูลจากนสพ.กรุงเทพธุรกิจ เสาร์สวัสดี เมื่อราวเดือนเม.ย.ปี 2004)


ภาพยนตร์เรื่อง The Perfect Score ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความพยายามโกงข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยเปิดฉายในสหรัฐแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี 2004 โดยมีสการ์เลทท์ โยฮันสัน นางเอกภาพยนตร์เรื่อง Lost in Translation และ Girl with a Pearl Earring นำแสดง ในขณะที่ภาพยนตร์เกี่ยวกับการเล่นเกมปริศนาอักษรไขว้เรื่อง Marathon ก็เปิดฉายในสหรัฐในช่วงนี้เช่นกัน

The Perfect Score เดินเรื่องเกี่ยวกับนักเรียนไฮสกูลกลุ่มหนึ่งที่พยายามขโมยคำตอบของข้อสอบ SAT ที่ใช้ในการสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย โดยผู้นำของวัยรุ่นกลุ่มนี้คือไคล์ (คริส อีแวนส์) ชายหนุ่มที่ต้องการจะเป็นสถาปนิกและเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยคอร์แนล โดยเขาต้องการทำคะแนน SAT ให้ได้ถึง 1,430 คะแนน แต่เขายังคงทำคะแนนได้เพียง 1,020

ไคล์ดึงตัวฟรานเซสก้า (โยฮันสัน) ซึ่งเป็นเด็กหัวขบถประจำห้องมาร่วมงานนี้ด้วย เนื่องจากพ่อของฟรานเซสก้าทำงานในสำนักงานใหญ่ของ SAT ดังนั้นเธอจึงอาจช่วยให้เขาเข้าไปในสำนักงานใหญ่ได้ อย่างไรก็ดี ตัวฟรานเซสกาเองนั้นไม่ได้จริงจังกับเรื่องการเข้ามหาวิทยาลัยมากนัก

ลูกทีมของไคล์ประกอบด้วยเดสมอนด์ (ดาริอุส ไมล์ส) นักบาสเกตบอลชื่อดัง โดยแม่ของเดสมอนด์ต้องการให้ลูกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยมากกว่าจะไปลงแข่งขัน NBA ดังนั้นเดสมอนด์จึงจำเป็นต้องทำคะแนนให้ได้ดี, แอนนา (เอริกา คริสเตนเซน) สาวหัวดีที่เข้าร่วมในแผนการนี้เพื่อความสนุกสนาน, แมทตี (ไบรอัน กรีนเบิร์ก) เพื่อนสนิทของไคล์ โดยแมทตีไม่ได้หวังที่จะได้คะแนนสูงมากนัก แต่เขาต้องการทำคะแนนให้ดีพอเพื่อจะได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์พร้อมกับแฟนสาวของเขา และรอย (ลีโอนาร์โด นาม) วัยรุ่นที่ชอบเสพยาเสพติดที่เข้าร่วมในแผนด้วย

อย่างไรก็ดี สิ่งที่วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้รับจากการทำตามแผนไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดหวังไว้ เพราะแต่ละคนในกลุ่มต่างก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง, เพื่อนๆของพวกเขา และได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตมากกว่าได้รู้คำตอบของข้อสอบ

The Perfect Score ได้เรท PG-13 (ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีควรมีผู้ปกครองมาชมด้วย) เนื่องจากมีการใช้ภาษาไม่เหมาะสม, มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ และมีการพาดพิงถึงยาเสพติด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ในสหรัฐไปแล้วกว่า 10 ล้านดอลลาร์

The Perfect Score กำกับโดยไบรอัน ร็อบบินส์ ซึ่งมีอายุ 40 ปี โดยก่อนหน้านี้เขาเคยกำกับเรื่อง Close to Home, Hard Ball, Ready to Rumble, Varsity Blues, Good Burger และ The Show

คริส อีแวนส์เกิดปี 1981 และเคยแสดงภาพยนตร์เรื่อง Saved!, Exposed, The Paper Boy, Eastwick, Not Another Teen Movie และ The Newcomers

http://eur.yimg.com/i/xp/premier_photo/d/d0992b26a9.jpg



MY NAME IS RACHEL CORRIE
http://tinypic.com/2m041j
http://www.guardian.co.uk/arts/features/story/0,11710,1454963,00.html



--ขำ FANTASTIC FOUR ที่มีสาวๆถามตัวละครในเรื่องว่า “คนคนนั้นเขายืดอวัยวะใดก็ได้ของตัวเองให้ยาวได้ตามใจชอบใช่ไหมคะ”

--ชอบ LAW OF DESIRE (A+/A) มากๆเลยค่ะ ฉากที่ชอบมากในเรื่องนี้คือฉากช่วงเปิดเรื่อง โดยเฉพาะตอนที่คาร์เมน เมาราโผล่ออกมาจากม่าน และฉากที่คาร์เมน เมาราแสดงละครเวที



ตอนนี้มีหนังของ DANIEL BRUEHL ที่อยากดูหลายเรื่องเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่อง LOVE IN THOUGHTS ที่เขาประกบคู่กับหนุ่มน่ารัก AUGUST DIEHL และมีเนื้อหาเกี่ยวกับเกย์ และหนังเรื่อง THE WHITE SOUND

หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจเคยลงข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่อง THE WHITE SOUND ที่นำแสดงโดย DANIEL BRUEHL ไว้ด้วยค่ะ ก็เลยก็อปปี้ข้อมูลมาให้อ่าน


ก่อนหน้าการสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Edukators (B+) ฮันส์ ไวน์การ์ทเนอร์และดาเนียล บรูล เคยร่วมงานกันมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง The White Sound โดยบรูลได้รับรางวัลเยอรมัน ฟิล์ม อวอร์ด สาขาดารานำชายในปี 2002 จากเรื่องนี้

ในเรื่อง The White Sound บรูลรับบทเป็นลูคัส ชายหนุ่มที่เป็นโรคจิตเภทและมักก่อปัญหาวุ่นวาย เขาย้ายมาอยู่ที่เมืองโคโลญจ์เพื่ออาศัยอยู่ในแฟลตของคัทยา ซึ่งเป็นพี่สาวของเขา (อนาเบลล์ ลาชัทเทอ) และโจเคน (แพทริค โยสวิก) ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่สาว และทั้งสามก็ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานด้วยกัน

ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี จนกระทั่งลูคัสตัดสินใจเลิกเรียนมหาวิทยาลัยในวันแรกเพียงเพราะเขาหาสำนักทะเบียนไม่พบ และเขายังพบปัญหาขณะออกเดทอีกด้วย เขาเริ่มก่อเรื่องยุ่งยากมากมาย และทำให้คัทยารู้สึกเหนื่อยหน่ายที่ต้องคอยตามแก้ปัญหาให้เขา ซึ่งลูคัสคิดว่าโลกทั้งโลกพยายามกลั่นแกล้งเขา และความพยายามครั้งสุดท้ายของคัทยาในการช่วยเหลือเขาก็ประสบกับความล้มเหลวเมื่อลูคัสตัดสินใจโดดลงแม่น้ำ

ลูคัสได้รับความช่วยเหลือจากชายพเนจร และลูคัสก็ได้เรียนรู้กับชีวิตแบบใหม่ขณะที่เขาติดสอยห้อยตามชายพเนจรคนนี้ เขาพบว่าสังคมของคนพเนจรมีแบบแผนที่แตกต่างจากสังคมของคนทั่วไป และสังคมใหม่นี้ไม่คาดหวังที่จะเห็นเขาประพฤติตัวเป็นคนปกติ สังคมนี้ยอมรับเขาในแบบที่เขาเป็นและในแบบที่เขาต้องการจะเป็น ดังนั้นเขาจึงติดตามคนกลุ่มนี้ในการเดินทางลงใต้ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของลูคัสมักทำให้คนอื่นๆในกลุ่มตกอยู่ในอันตราย

จุดเด่นของ The White Sound คือการที่ตัวละครหลักของเรื่องต้องเผชิญกับปัญหาที่ร้ายแรงในชีวิตแต่ก็ไม่รู้สึกสิ้นหวัง ตัวละครเหล่านี้ลุกขึ้นสู้กับปัญหาในชีวิตและพยายามคิดหากลวิธีต่างๆที่จะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จและมีชีวิตอยู่ต่อไป

ดาเนียล บรูลซึ่งเกิดปี 1978 เปิดเผยว่าการเตรียมรับบทใน The White Sound "ถือเป็นการเตรียมตัวที่รุนแรงและหนักหนาสาหัสที่สุด เพราะผมยืนยันว่าผมต้องได้รู้จักกับคนที่เป็นโรคจิตเภทจริงๆก่อนจะแสดง นั่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องแสดงอะไรที่ซ้ำซากเหมือนกับคนอื่นๆ เป็นเรื่องดีที่ผมได้รับบทที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ แต่คงเป็นเรื่องที่น่าละอายมากถ้าผมจะเล่นออกมาแย่"

ในระหว่างที่บรูลศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับบทนี้ เขาก็ได้พบกับชายหนุ่มชื่อมาร์คที่ป่วยเป็นโรคจิตเภทและสามารถพูดคุยกับบรูลเกี่ยวกับอาการของเขา ซึ่งบรูลเล่าว่า "หลังจากนั้นผมก็ตัดตัวเองออกจากทุกสิ่งทุกอย่างและลองสวมบทบาทนั้นอย่างจริงจัง" นอกจากนี้ บรูลยังให้ความเห็นอีกด้วยว่า "เป็นเรื่องดีที่ได้รู้ว่าเรามีเวลาพอสำหรับการเตรียมตัวรับบทหรือไม่ แต่เรื่องนี้มักไม่เกิดขึ้นในเยอรมนีเพราะคุณมักจะได้เข้าร่วมในโครงการสร้างหนังก็ต่อเมื่อถึงนาทีสุดท้าย ซึ่งถ้าหากคุณได้บทนำในเรื่อง คุณก็จะมีปัญหาเรื่องการเตรียมตัว นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญก็คือคุณจำเป็นจะต้องมีเวลามากพอในการพูดคุยกับผู้กำกับเพื่อจะได้ดูว่าคุณกับเขามองตัวละครตรงกันหรือเปล่า"

The White Sound เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของบรูลที่ใช้กล้องดิจิตัลในการถ่ายทำ ซึ่งบรูลให้ความเห็นว่าประสบการณ์ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ในทางบวกอย่างมาก และประกาศว่า "พอผมรู้เช่นนี้แล้ว ผมก็จะแสดงกับกล้องดิจิตัลอีกถ้าหากได้เนื้อเรื่องและผู้กำกับที่เหมาะสม"

"ผู้กำกับ The White Sound ต้องการทำงานในแบบที่เหมือนกับภาพยนตร์สารคดี และนั่นคือเหตุผลที่เราใช้กล้องดิจิตัล มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากสำหรับนักแสดงเพราะกระบวนการถ่ายจะมีความแอคทีฟกว่ามาก การถ่ายทำจะเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากเมื่อผมอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะแสดง นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากการถ่ายทำแบบทั่วไปที่คุณต้องใช้เวลารอราว 3 ชั่วโมงเพื่อเปลี่ยนวิธีการจัดแสง การเล่นหนังเรื่องนี้ไม่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมกำลังทำงานรับใช้กล้อง แต่รู้สึกว่ากล้องทำงานรับใช้ผม" บรูลกล่าว

http://images-eu.amazon.com/images/P/B00007DXEN.03.LZZZZZZZ.jpg

No comments: