Monday, October 02, 2006

AE FOND KISS (KEN LOACH, A+++++)

ตอบคนใส่ปราด้า
รู้สึกว่าคุณคนใส่ปราด้า จะใส่ตัวเลข "สาม" ไว้สองครั้งในรายชื่อหนังที่ได้ดูค่ะ

ส่วนเรื่องเสื้อนั้น ถ้าหากมี SIZE L ดิฉันก็ขอซื้อสีชมพูตัวนึง กับสีฟ้าตัวนึงค่ะ แต่ดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใส่ SIZE L ได้หรือเปล่า ถ้าหากคุณ TARENCE เห็นว่าดิฉันเหมาะกับไซส์ XL มากกว่า ก็เอา XL มาให้ดิฉันก็ได้ค่ะ แล้วจะจ่ายตังค์ให้ในวันเสาร์นี้นะคะ

อ้อ วันเสาร์นี้เป็นคืนวันเพ็ญค่ะ เพราะฉะนั้นขอให้พวกเราที่จะมาเจอกันในวันเสาร์นี้ นำอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มาให้พรักพร้อมนะคะ


--อ่านเรื่องความหลังของน้อง merveillesxx กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแล้วรู้สึกเศร้ามากค่ะ

--ขอก็อปข้อความจาก SCREENOUT มาแปะไว้ที่นี่ด้วยนะคะ
http://xq28.net/s/viewtopic.php?t=3437&start=3750

หนังที่ได้ดูในช่วงนี้

1.AE FOND KISS (2004, KEN LOACH, A++++++++++++++++++++)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00079HZPC.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1104789864_.jpg

เพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้ที่โรง HOUSE RCA และยกอันดับให้หนังเรื่องนี้เป็น “หนังรัก” ที่ชอบที่สุดในชีวิตเรื่องนึง แต่คำว่า “หนังรัก” ในที่นี้ไม่ได้มีความหมายว่า “หนังที่เน้นนำเสนอความรักของตัวละคร” แต่หมายความถึง “หนังที่ทำให้ดิฉันรู้สึกเอาใจช่วยคู่รักในหนังมากที่สุด หรือทำให้รู้สึกซาบซึ้งกับความรักของตัวละครในหนังมากที่สุด” ซึ่งหนังที่ทำให้ดิฉันเอาใจช่วยคู่รัก มักจะไม่ได้เป็นหนังที่นำเสนอ “ด้านลบ” ของคู่รักมากนัก และมักจะเป็นหนังที่ให้อารมณ์ “พาฝัน” อยู่บ้าง

รู้สึกว่า AE FOND KISS อาจจะไม่ “ดี” เท่า THE WIND THAT SHAKES THE BARLEY (2006, KEN LOACH, A+) แต่ก็ชอบ AE FOND KISS อย่างมากๆอยู่ดี อย่างไรก็ดี หนังที่ชอบที่สุดของ KEN LOACH ยังคงเป็น CARLA’S SONG

AE FOND KISS เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ทำให้นึกถึงชีวิตจริงของตัวเองเหมือนๆกับ SEASONS CHANGE และหนังทั้งสองก็เหมือนกันในแง่ที่ว่า “สิ่งที่อยู่ในหนัง” มันดู “เบา” มากๆเมื่อเทียบกับเหตุการณ์จริงในชีวิตของดิฉันหรือเพื่อนๆดิฉัน และมันช่วยตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่า “เรื่องจริงมันยิ่งกว่านิยาย” นอกจากนี้ ทั้ง AE FOND KISS และ SEASONS CHANGE ยังมีตัวละครที่ขัดแย้งกับผู้ปกครองเรื่องการเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองเหมือนกันอีกด้วย

AE FOND KISS ทำให้นึกถึงชีวิตของเพื่อนผู้หญิงคนนึงของดิฉัน แต่สิ่งที่เพื่อนผู้หญิงของดิฉันต้องประสบจากครอบครัวของเธอเองนั้น มันทารุณโหดร้ายสาหัสสากรรจ์กว่าเหตุการณ์ใน AE FOND KISS ประมาณ 10 เท่า

“หนังรัก” ในดวงใจของดิฉัน (ตามคำนิยามที่ให้ไว้ข้างต้น)


1.1 MY BEAUTIFUL LANDRETTE (1986, STEPHEN FREARS, A+)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00008R9KF.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056787036_.jpg


1.2 BEAUTIFUL THING (1996, HETTIE MACDONALD, A+)
หนังโปรดของน้อง PAAAE


1.3 AE FOND KISS


1.4 THE LOVE LETTER (1999, PETER CHAN, A+)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/0783239416.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056487093_.jpg


1.5 PILBARA PEARL (1998, CHRISTOPHER WATSON, A+)


1.6 INNOCENCE (2000, PAUL COX, A+)


1.7 THE WOMAN HE LOVED (1988, CHARLES JARROTT, A+)
หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักระหว่างกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 8 ของอังกฤษ กับนางวอลลิส ซิมป์สัน (เจน ซีมัวร์) ดิฉันเดาว่าหนังเรื่องนี้คงจงใจละเลยข้อเท็จจริงบางประการทางปวศ. เพื่อให้พระเอก+นางเอกในหนังดูดีขึ้น แต่ถ้าหากไม่คำนึงว่า “เรื่องจริง” เป็นอย่างไรแล้ว เหตุการณ์ในหนังก็ทำให้ดูแล้วซาบซึ้งกับความรักของตัวละครเป็นอย่างมาก ได้ดูหนังเรื่องนี้ทางช่อง 3 เมื่อ 15-16 ปีก่อน ยังจำได้เลยว่า ตอนจบเป็นคำกลอนว่า

“ขอแค่มีเพียงเราสอง
ไม่หมายปองอำนาจวาสนา
ทั้งบัลลัง, มงกุฎ และคทา”
http://www.fashion-era.com/images/1914-1950/wall468x30.jpg

นางวอลลิส ซิมป์สัน ได้รับข้อกล่าวหาว่าสนับสนุนนาซี และหลงรักเกย์ด้วย อ่านข้อมูลได้ที่
http://news.bbc.co.uk/1/hi/uk/2699035.stm

And, 13 years after Edward had given up his throne to marry her, the duchess reportedly embarked on an affair with Jimmy Donahue, a playboy grandson of the stores mogul, FW Woolworth.

She was 54, he was 34, homosexual, outrageous and promiscuous.


1.8 THE HEART IS ELSEWHERE (2003, PUPI AVATI, A+)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B000ELJA6U.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V54584871_.jpg


1.9 THE BEWITCHING BRAID (1996, YUANYUAN CAI, A+)


1.10 ALI: FEAR EATS THE SOUL (1974, RAINER WERNER FASSBINDER, A)


2.BLUE (2001, HIROSHI ANDO, A+++++)
หนังเลสเบียนฉายที่ลิโด


3.DEATH NOTE (2006, SHUSUKE KANEKO, A+)

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชอบ THE WIND THAT SHAKES THE BARLEY กับ SAY HELLO TO PEACE AND TRANQUILITY เพิ่มขึ้นอย่างมากๆ


4.THE DEVIL WEARS PRADA (2006, DAVID FRANKEL, A)

ชอบชีวิตการทำงานในหนังเรื่องนี้มาก รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ตอบสนองความฝันของดิฉันได้ไม่เท่า 13 GOING ON 30 (GARY WINICK, A+) แต่หนังเรื่องนี้ก็นำเสนอชีวิตการทำงานได้สมจริงกว่า 13 GOING ON 30

EMILY BLUNT จาก MY SUMMER OF LOVE (2004, PAWEL PAWLIKOWSKI, A+) แสดงได้ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะในบทเพื่อนร่วมงานนางเอกใน THE DEVIL WEARS PRADA ดิฉันขอเอาใจช่วยให้ EMILY BLUNT ได้ก้าวขึ้นมาเป็น KATE WINSLET คนใหม่ และก็ขอเอาใจช่วยให้ NATHALIE PRESS นางเอกอีกคนของ MY SUMMER OF LOVE ได้ก้าวขึ้นมาเป็น TILDA SWINTON คนใหม่

EMILY BLUNT
http://www.wchstv.com/abc/empire/emilyblunt.jpg

MY SUMMER OF LOVE
http://pub.tv2.no/multimedia/na/archive/00199/my_summer_of_love_199487g.jpg


5.THE BEYOND (LUCIO FULCI, A)

วันเสาร์ที่ผ่านมาไปที่สมาคมฝรั่งเศสเพื่อจะดูหนังเรื่อง AALTRA ปรากฏว่าหนังงดฉายกะทันหัน และทางโรงภาพยนตร์เปลี่ยนมาฉายเรื่อง A COMMON THREAD แทน ซึ่งทั้งดิฉันและคุณลูน่า จังเคยดูเรื่อง A COMMON THREAD แล้ว เราก็เลยหัวเสียมากที่อุตส่าห์ถ่อมาดูหนังแล้วไม่ได้ดู ก็เลยไปซื้อดีวีดีที่สีลมมาดูเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ แล้วก็เลยได้เรื่อง THE BEYOND มา

THE BEYOND เป็นหนึ่งในหนังที่มีเนื้อเรื่องห่วยแตกที่สุดในชีวิต หนังทั้งเรื่องเหมือนกับเป็น FOUND FOOTAGE หรือเป็นการตัดฉาก CLICHE จากหนังสยองขวัญหลายๆเรื่องมาต่อเข้าด้วยกัน โดยที่เนื้อเรื่องแทบไม่ปะติดปะต่อกัน ดูแล้วรู้สึกว่าฮามาก หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ไม่มีเหตุผลหรือคำอธิบายอะไรอีกต่อไปแล้ว

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ THE BEYOND จะเป็นหนังที่ “ไร้สาระ” ที่สุด แต่ก็รู้สึกเพลิดเพลินกับ “สไตล์” ของหนังอย่างมากๆ รู้สึกชอบการจัดแสง, ฉาก, จังหวะ, บุคลิกตัวละครหญิง และดนตรีประกอบในหนังเรื่องนี้มาก ดนตรีประกอบบางฉาก อย่างเช่นฉากกองทัพแมงมุมกินคนในห้องสมุด ฟังแล้วทำให้นึกถึงวงอย่าง THE ORB หรือ ORBITAL อย่างมากๆ

ฉากที่ชอบที่สุดใน THE BEYOND คือฉากหญิงตาบอดวิ่งเตลิดออกจากบ้านนางเอกไปพร้อมกับสุนัขคู่ใจ แล้วอยู่ดีๆนางเอกก็ทำอาการเคลิ้ม แล้วหนังก็ REPLAY ภาพผู้หญิงตาบอดวิ่งเตลิดติดต่อกัน 3-4 ครั้งโดยไม่มีเหตุผลอะไรทั้งสิ้น

THE BEYOND ทำให้เห็นจุดเด่นของผู้กำกับหนังสยองขวัญยุคนั้นของยุโรป เพราะหนังสยองขวัญยุคนั้นมีจุดเด่นที่ “สไตล์” ทั้งด้านภาพ, เสียง, บรรยากาศ ในขณะที่เนื้อเรื่องมักจะไม่ค่อยมีเหตุผลรองรับมากเท่ากับหนังสยองขวัญยุคปัจจุบัน

http://ec1.images-amazon.com/images/P/6305972079.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056623182_.jpg


6.SEE NO EVIL (2006, GREGORY DARK, B+)

รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ “โหด” เกินไป ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะสร้าง “สถานการณ์” ได้สนุกพอสมควร อีกอย่างที่ไม่ค่อยเข้าทางดิฉันก็คือ หนังเรื่องนี้นำเรื่องเข้าสู่สถานการณ์สยองขวัญในทันที ในขณะที่ดิฉันมักจะชอบหนังสยองขวัญประเภทที่เปิดเรื่องด้วยการทำเหมือนกับว่าตัวเองไม่ใช่หนังสยองขวัญมากกว่า เพราะการเปิดเรื่องในแบบ “หนังชีวิต” มันทำให้ดิฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเหตุการณ์สยองขวัญอาจจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตของเราเช่นกัน อย่างเช่น

6.1 WOLF CREEK (GREG MCLEAN, A+++++)
ช่วง 1 ชั่วโมงแรกของเรื่องผ่านไปโดยไม่มีเหตุการณ์สยองขวัญ แต่เป็นตัวละครท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ และมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างธรรมชาติมากๆ


6.2 JEEPERS CREEPERS (VICTOR SALVA, A+++++)
ชอบช่วงต้นเรื่องมากที่เป็นพี่สาวน้องชายคุยกันเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยๆ


6.3 HOUSE OF WAX (JAUME COLLET-SERRA, A+)
ชอบช่วงต้นเรื่องเช่นกัน ที่เป็นตัวละคร 4 คนคุย+เดินทางไปเรื่อยๆ


ตอบคุณลูน่า จัง

ชอบภาพแบบ SURREAL ที่นำมาแปะไว้มากๆเลยค่ะ


ตอบน้อง ZM

ช่วงนี้ดิฉันก็ฝันประหลาดเหมือนกันค่ะ เมื่อเช้าวันอาทิตย์อยู่ดีๆก็ฝันว่ามีงูยักษ์ประเภทอนาคอนด้าโผล่มากินคนกลางสระว่ายน้ำในโรงเรียนมัธยม และก่อนที่งูจะโผล่มาแต่ละครั้ง ท่อประปาในโรงเรียนจะดังแก๊งๆๆๆ เพราะฉะนั้นพอดิฉัน+คนอื่นๆในโรงเรียนได้ยินเสียงท่อประปาขยับเมื่อไหร่ ก็จะร้องกรี๊ด และก็แตกฮือ วิ่งหนีกันไปตามทางเดินในโรงเรียน เป็นเหตุการณ์ในฝันที่สนุกตื่นเต้นมากๆ แต่ตอนหลังงูยักษ์หลุดออกมา และทะยานออกไปชนกับรถไฟฟ้า ทำให้รถไฟฟ้าตกลงมาจากรางด้วย มีผู้โดยสารในรถได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

จำไม่ได้แล้วว่าตอนหลังงูยักษ์โดนปราบไปได้ยังไง แต่จำได้ว่าต่อมาดิฉันกับเพื่อนๆนั่งรถไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วเจอกับพวกอันธพาลต่างจังหวัดขับรถตามมาเป็นกลุ่มๆ พยายามจะทำร้ายดิฉันกับเพื่อนๆ เพื่อนดิฉันคนนึงเลยหยิบคาถาปลุกงูยักษ์ออกมา แล้วร่ายคาถาปลุกงูยักษ์ตัวนี้ให้ฟื้นขึ้นมาบนพื้นพิภพอีกครั้งเพื่อไล่กินพวกอันธพาลเหล่านี้ แต่ตอนหลังงูยักษ์ก็ไล่กวดรถของดิฉันเสียเอง เป็นเหตุการณ์ในฝันที่น่าตื่นเต้นมากๆอีกเช่นกัน แต่ต่อมาพวกเราก็ไปอาศัยหลบอยู่ในคุ้มของเจ้านางอะไรสักอย่าง แต่สาวใช้บางคนในคุ้มของเจ้านางคนนี้ก็มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจเป็นอย่างมาก

รู้สึกว่าฝันเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นฝันที่สนุกมากๆ

No comments: