Saturday, October 07, 2006

SIGN THE PETITION

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms01&ContentID=1981&SystemModuleKey=underwave&System_Session_Language=Thai

แถลงการณ์คัดค้านการปิดช่องทางการสื่อสารเสรี

เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนถูกกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศปิดกั้น แต่ไม่ ใช่เว็บไซต์แห่งแรกที่ถูกอำนาจรัฐประหารปิดกั้น หรือพยายามเข้าไปปั่นป่วน ปฏิกิริยาของ ม.เที่ยงคืนต่อการรัฐประหารก็คือ แม้ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างมักง่ายเช่นนี้ แต่ก็เห็นว่าสายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้ นอกจากช่วย กันผลักดันให้ประเทศกลับสู่เส้นทางพัฒนาประชาธิปไตยโดยเร็ว

คปค.อ้างว่าการรัฐประหารครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง ซึ่ง ส่วนหนึ่งประกอบด้วยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่กระบวนการทั้งร่างรัฐธรรมนูญใหม่และปฏิรูปการเมือง ตามที่ปรากฏในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว กลับเป็นกระบวนการที่ไม่เปิดให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพอย่างบริบูรณ์ อันเป็นเงื่อนไขสำคัญของการปฏิรูปการเมืองที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ใช่เพียงการถูกเลือกสรรเข้าไปนั่งในองค์กรร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ต้องหมายถึงโอกาสของการรับรู้และส่งผ่านความคิดเห็นกันอย่างอิสระเสรีด้วย ฉะนั้นบรรยากาศที่มีคณะทหารในนามของ คปค.คอยกำกับควบคุมอยู่เช่นนี้ จึงทำให้การปฏิรูปการเมืองที่แท้จริงเกิดขึ้นไม่ได้

ม.เที่ยงคืนจึงแถลงข่าวคัดค้านแนวทางการปฏิรูปการเมือง ตามที่ระบุไว้ในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว และเสนอแนวทางอื่นซึ่งจะเปิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนกลับคืนมาให้สมบูรณ์ อันเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการปฏิรูปการเมืองและการร่างรัฐธรรมนูญ ม.เที่ยงคืนอาศัยการกระทำเชิงสัญลักษณ์คือการฉีกธรรมนูญชั่วคราวดัง กล่าว และทั้งหมดนี้ได้รายงานไว้ในเว็บไซต์ของ ม.เที่ยงคืน

ในวันที่ ๒๙ ก.ย. กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศได้ปิดกั้นเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนทันที การกระทำนี้ ม.เที่ยงคืนสามารถสื่อกับสังคมได้ใหม่ไม่ยากด้วยการแก้ปัญหาทางเทคนิค แท้จริงแล้ว เราได้รับข้อเสนอจากผู้ให้บริการในต่างประเทศหลายราย ให้ ม.เที่ยงคืนใช้พื้นที่ของเขาได้โดยเสรี แต่ ม.เที่ยงคืนเห็นว่า ประเด็นปัญหาไม่ได้อยู่ที่พื้นที่สาธารณะมีหรือไม่มีในทางเทคโนโลยี แต่อยู่ที่ว่าพื้นที่สาธารณะถูกอำนาจรัฐประหารที่อ้างว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมืองปิดกั้น ฉะนั้นจึงจำเป็นที่พวกเราในประเทศที่จะต้องร่วมกันต่อสู้กับอำนาจที่ขาดความชอบธรรมนี้ร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะหลบไปหาพื้นที่ใหม่

ดังที่ ม.เที่ยงคืนได้แถลงข่าวเตือนไว้แล้วว่า การปฏิรูปการเมืองในบรรยากาศที่ขาดสิทธิเสรีภาพของประชาชนนั้น จะไม่เกิดผลเป็นจริงได้ การเที่ยวปิดเว็บไซต์ของฝ่ายที่มีความเห็นไม่สอดคล้องกับกลุ่มอำนาจรัฐประหาร สะท้อนให้เห็นมาแต่ต้นว่าอำนาจนี้จะไม่อาจนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองที่เปิดโอกาสอันเท่าเทียมแก่คนทุกกลุ่มในสังคม หากอำนาจนี้จะสิ้นสุดลงโดยสันติในสังคมไทย จำเป็นที่สังคมไทยต้องไม่ยอมจำนน แต่ควรร่วมมือกันในการกดดันให้อำนาจนี้ ยุติการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในทันที

จริงอยู่ ในบรรยากาศแห่งเสรีภาพ ย่อมเป็นธรรมดาที่อาจมีผู้ใช้โอกาสนี้สำหรับการทำลายหรือขัดขวางการปฏิรูปการเมือง แต่ในสังคมที่มีสิทธิเสรีภาพสมบูรณ์ สังคมจะมีพลังในการต่อสู้กับความเท็จ ความหลอกลวง ที่กลุ่มผู้ขัดขวางการปฏิรูปการเมืองจะต้องใช้เป็นเครื่องมือ ในการดึงอำนาจกลับไปสู่กลุ่มนักการเมืองฉ้อฉลซึ่งเคยมีอำนาจมาก่อน ในทางกลับกัน สังคมที่ถูกกำกับควบคุมการรับรู้ข่าวสารข้อมูลต่างหาก ที่เป็นสังคมอ่อนแอไม่อาจต่อสู้กับความเท็จความหลอกลวงของนักการเมืองได้

ตรงกันข้ามกับการเลือกปิดช่องทางการสื่อสาร โดยหาหลักเกณฑ์อะไรไม่ได้มากไปกว่า รู้สึกว่า ช่องทางเหล่านี้อาจไม่เป็นมิตรกับอำนาจรัฐประหาร การเปิดเสรีภาพอย่างไม่จำแนกระหว่างมิตรและศัตรู กลับเป็นกติกาที่แน่นอน คาดหวังได้จากทุกฝ่ายอย่าง เท่าเทียมกัน ความไม่มีกติกาอันแน่นอนเป็นสิ่งที่การรัฐประหารและใช้อำนาจที่ขาดการตรวจสอบควบคุมทุกระบบอ่อนแอที่สุด ฉะนั้นการประกันสิทธิเสรีภาพการรับรู้ของประชาชนอย่างเท่าเทียมกันต่างหาก ที่จะเป็นพลังอันแท้จริงของคณะรัฐประหารซึ่งได้อำนาจมาโดยขาดความชอบธรรม

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙



ร่วมลงนามได้ที่ http://www.petitiononline.com/freeweb/petition.html

No comments: