Sunday, June 20, 2010

OUR LADY OF THE TURKS (1968, Carmelo Bene, A+++++++++++++++)

VARIOUS COMMENTS IN FACEBOOK

--OUR LADY OF THE TURKS (1968, Carmelo Bene, A+++++++++++++++)
ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป

I would like to screen this film together with DAISIES (1966, Vera Chytilová), FANDO AND LIS (1968, Alejandro Jodorowsky), KILLED THE FAMILY AND WENT TO THE MOVIES (1969, Júlio Bressane), MACUNAIMA (1969, Joaquim Pedro de Andrade), THE DESERT ARCHIPELAGO (1969, Katsu Kanai), THE DEATH OF MARIA MALIBRAN (1972, Werner Schroeter), THE ANDECHS FEELING (1974, Herbert Achternbusch), SWEET MOVIE (1974, Dusan Makavejev), and MADAME X: AN ABSOLUTE RULER (1977, Ulrike Ottinger).


--on THE WIND THAT SHAKES THE BARLEY

พูดถึงเรื่อง "การปลดแอก แล้วเราก็ไม่ได้เป็นอิสระอย่างแท้จริง" เราก็มักจะนึกถึงหนังเรื่อง DANTON (1983, Andrzej Wajda, A+++++) ที่เล่าเรื่องของดังตอง คนที่มีส่วนร่วมในการปฏิวัติฝรั่งเศส แต่สุดท้ายเขาก็โดนพวกนักปฏิวัติด้วยกันเองฆ่าตาย

ยังไม่ได้ดู KES เลย แต่เราชอบ CARLA'S SONG (1996) มากที่สุด เพียงเพราะว่ามันทำให้เราร้องห่มร้องไห้อย่างรุนแรง


--on THE GHOST WRITER

ดูจบมาหลายวันแล้ว เรายังกังวลอยู่ว่า "ชายแก่ที่เล่าให้พระเอกฟังว่ากระแสน้ำไม่มีวันพาศพลอยมาขึ้นฝั่งตรงจุดนั้นได้" จะถูกผู้ร้ายฆ่าตายไปด้วยหรือเปล่า แต่เราเดาว่าคงถูกผู้ร้ายฆ่าปิดปากไปแล้วเรียบร้อย เศร้า


--on THE MESSAGE

ควรดูหนังสองเรื่องนี้ควบไปด้วยค่ะ THE FOUNDING OF A REPUBLIC (2009, Han Sanping + Huang Jianxin, A-) ที่สร้างขึ้นเพื่อด่าเจียงไคเช็ค และเชิดชูเหมาเจ๋อตุง และจบด้วย TIBET: CRY OF THE SNOW LION (2002, Tom Peosay, A+/A) ที่แสดงให้เห็นว่าเหมาเจ๋อตุงชั่วร้ายเพียงใด

ดู THE MESSAGE แล้วทำให้รู้ว่าตัวเองเป็นสายลับไม่ได้แน่ เพราะถ้า Huang Xiaoming กับ Zhang Hanyu ข่มขืนเรา เราคงจะยิ้มร่าและคายความลับทุกอย่างออกมาในทันที

เราก็กลัวฉากรูดเชือกนะ แต่ไม่ได้กลัวเพราะ "การกระทำ" แต่กลัวเพราะ "ตัวละครที่จะถูกกระทำ" เพราะเรารู้สึกว่าถ้าหาก Zhou Xun ถูกจับให้นั่งเก้าอี้ และตัวละครเกย์คนนั้นถูกจับให้รูดเชือก เราก็จะกลัวการ "นั่งเก้าอี้" มากกว่าการรูดเชือกแทน หนังมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยเห็นใจตัวละครเกย์น่ะ

นอกจาก THE MESSAGE กับ LUST, CAUTION แล้ว หนังเกี่ยวกับยุคสายลับยุคนั้นอีกเรื่องที่เราเคยดูรู้สึกว่าจะเป็น FLAG OF HONOR (1987, Ting Shan-hsi) ที่นำแสดงโดยหลินชิงเสีย แต่จำอะไรไม่ได้แล้ว อาจจะเป็นเพราะหนังไม่สนุกเท่าไหร่

แต่ตอนเด็กๆมีละครทีวีฮ่องกงเรื่องนึงเกี่ยวกับยุคสายลับญี่ปุ่นในเซี่ยงไฮ้ ชื่อเรื่อง "คำสาปเทวรูป" (A++++++++++) นำแสดงโดยจวงจิ้งเอ๋อ, หลิวเต๋อหัว กับหลี่เหลียงเหว่ย นางเอกเป็นคนที่โดนคำสาปของชาวเขา ทำให้ต้องลุกขึ้นมาฆ่าคนในเวลากลางคืนโดยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แล้วในยุคนั้นดันมีสายลับญี่ปุ่นปลอมตัวเข้ามาในเซี่ยงไฮ้ด้วย ก็เลยสนุกมาก
http://www.lovelydvd.com/catalog.php?idp=3277


--on TENDERNESS

ดีใจมากๆๆๆๆๆๆ จ้าที่ชอบ TENDERNESS

เออใช่ แม่นางเอกนี่การแสดงสุดยอดมากๆ มันมีเสี้ยววินาทีนึงที่เธอฝืนยิ้มให้ลูกสาวตอนต้นเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดของเธอ และเรารู้สึกว่าเสี้ยววินาทีนั้นมัน hurt มาก

เราชอบชื่อหนังเรื่องนึงมากๆ ทั้งๆที่เรายังไม่เคยดู นั่นก็คือหนังเรื่อง DESTROY, SHE SAID ของ Marguerite Duras และเราก็เลยได้ไอเดียว่า ถ้าหากเราต้องเปลี่ยนชื่อหนัง TENDERNESS ใหม่ เราก็จะเปลี่ยนชื่อหนังเรื่องนี้เป็น DISSOLVE ME, SHE SAID

ใช่จ้ะ ฉากล้างจาน แล้วช่วงต้นเรื่องมัน hurt อีกด้วยนะ ตรงที่แม่นางเอกดันซื้อซีดีเดียวกันมาให้ สรุปว่านางเอกเปิดนมไปโดยเปล่าประโยชน์

ฉากที่พระเอกช่วยตัวเองก็ hurt มากๆ นางเอกคงคิดในใจว่า "กูถวายจิ๋มให้มึงแล้ว ทำไมมึงยังไม่เอากู ชีวิตบัดซบจริงๆ LIFE IS A BITCH." (ขอโทษด้วยที่ใช้คำหยาบ แต่เราว่าถ้านางเอกคิดเป็นภาษาไทย นางเอกก็คงจะใช้ศัพท์แบบนี้ในความคิดของตัวเอง)


--on PRINCE OF PERSIA

PRINCE OF PERSIA เราว่าหนังมันดูห่วยๆยังไงไม่รู้ แต่มันมีจุดที่ชอบเป็นการส่วนตัวหลายจุด อาจจะถือเป็นหนึ่งใน guilty pleasure of the year มันเป็นหนังห่วยที่ไปๆมาๆแล้วเรากลับชอบมากกว่าหนังดีอย่าง SHUTTER ISLAND, THE HURT LOCKER หรือ GREEN ZONE เสียอีก แต่จะให้ A++++++++++ กับ PRINCE OF PERSIA ถ้าหากตอนจบของหนังเรื่องนี้ โอรสของกษัตริย์ฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้ความผิดที่ตัวเอง invade เมืองนี้

No comments: