Tuesday, September 22, 2015

WHAAM! (2015, Thanaphon Accawatanyu, stage play, A+25)

WHAAM! (2015, Thanaphon Accawatanyu, stage play, A+25)

--นึกว่า SOLARIS (1972, Andrei Tarkovsky) เวอร์ชั่นเกย์ 555

ที่นึกถึง SOLARIS ก็เพราะว่า เนื้อเรื่องตอนแรกมันดูเหมือนเป็นการเดินทางไปในอวกาศ แต่ไปๆมาๆมันเหมือนการเดินทางเข้าไปในจิตใจของตนเอง โดย SOLARIS จบลงด้วยการที่คนดูบางคนอาจจะสงสัยว่า ตกลงแล้วตัวละครมันได้เดินทางไปไหนไกลกว่าตักของพ่อมันหรือเปล่า และ WHAAM! ก็อาจจะทำให้เราสงสัยอะไรบางอย่างคล้ายๆกัน

--ดูช่วงแรกๆเราจูนไม่ติดนะ เหมือนเรา approach ละครเรื่องนี้ด้วยวิธีการที่ผิดพลาดเองแหละ คือช่วงแรกๆของเรื่องเราพยายามจะตีความว่า “ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นจริงๆกันแน่” คือเหตุการณ์ในเรื่องมันดูงงๆน่ะ ว่า เอ๊ะ นี่มันอยู่ในอวกาศหรืออยู่ที่ไหน ถ้าหากมันอยู่ในอวกาศจริง แล้วแม่กับพี่สาวโผล่มาจากไหน

พอเรามองว่าเหตุการณ์ในเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าเราไม่ได้เป็นความจริง แต่เหมือนเป็นภาพสะท้อนความจริงผ่านทาง “ตัวแปร” อะไรบางอย่างที่มันทำให้ความจริงบิดเบี้ยวไป เราก็เลยมัวแต่พยายามตีความว่า ตกลงเหตุการณ์จริงๆที่เกิดขึ้นมันคืออะไร อะไรเกิดขึ้นกับตัวละครก่อนที่เขาจะขึ้นยานอวกาศ แล้วพอเขาขึ้นยานอวกาศไปแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง

---แต่พอพยายามตีความไปได้สักพัก เราก็เพิ่งได้สติว่า เออ ไม่ต้องสนใจหรอกว่าตกลงความจริงมันคืออะไร เราแค่รับรู้การแสดงตรงหน้าไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องพยายามตีความมันดีกว่า แล้วพอเรา approach ละครด้วยวิธีการนี้ เราก็พบว่าเรามีอารมณ์ร่วมกับละครเรื่องนี้เพิ่มขึ้นมากๆ

--สรุปว่าดูจนจบแล้วก็ยังงงๆอยู่นะ ว่าตกลงเกิดอะไรขึ้นบ้าง 555 แต่ก็เหมือนตอนที่เราดู SOLARIS ของ Tarkovsky น่ะแหละ เพราะดูจบแล้วเราก็งงๆเหมือนกัน แต่ก็ชอบมากๆอยู่ดี

--ชอบฉากที่ตัวเอกทะเลาะกับแม่มากๆ เราว่าฉากนั้นทรงพลังมากๆ

--ตอนที่ตัวละครชายหนุ่มทั้งสองคนออกไปนอกห้องแล้วหันหลังให้คนดู เราว่าฉากนั้นก็ทรงพลังเหมือนกัน

--ฉากเลียเข่านี่ฟินสุดๆ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราชอบละครเรื่องนี้มากๆ คือเราไม่ได้ชอบแค่การเลียเข่านะ แต่เราว่าอารมณ์โดยรวมๆที่นำไปสู่ฉากนี้ และทุกอย่างในฉากนี้ มันดูดีสุดๆสำหรับเรา

--ดีใจที่เห็นหนังสือ BOOKVIRUS อยู่ในฉาก 555


--สรุปว่าธนพนธ์ อัคควทัญญู ผู้กำกับละครเรื่องนี้ เป็นคนที่น่าจับตามองมากๆ เราว่า wavelength ของละครเรื่องนี้มันแปลกดีนะ มันไม่เหมือนใคร และมันทำให้เราจูนไม่ติดกับมันในตอนแรก แต่เราชอบการได้ค้นพบหนังหรือละครเวทีที่มี wavelength แปลกๆแบบนี้นี่แหละ และเราว่าเขามีวิธีการที่น่าสนใจและเป็นตัวของตัวเองดี ในการถ่ายทอดชีวิตและจิตใจของตัวละคร

No comments: