Tuesday, January 03, 2017

LA LA LAND AND OTHER FILMS

LA LA LAND (2016, Damian Chazelle, A+30) 

1.ชอบมากกว่า WHIPLASH (2014, Damian Chazelle) มากเลย เพราะเราถูกโฉลกกับพระเอกของเรื่องนี้มาก แต่ไม่ถูกโฉลกกับตัวละครเอกของ WHIPLASH น่ะ คือตัวละครเอกของ WHIPLASH มันเป็นพวก competitive น่ะ แต่เราจะมีนิสัยตรงข้ามกับคนประเภทนี้ เราก็เลยไม่ได้ชอบ WHIPLASH ในแบบที่เป็นการส่วนตัว คือรู้สึกว่า WHIPLASH เป็นหนังดี แต่เราเกลียดตัวละครในหนัง

ส่วนพระเอกของ LA LA LAND นั้น เราชอบสุดๆตั้งแต่ฉากที่เขาเชิดใส่นางเอกตอนที่เจอกันในร้านอาหาร มันเหมือนกับว่าในฉากนั้นเขาถูกโทสะบดบังดวงตาและหัวใจ และโทสะมีอำนาจเหนือราคะในฉากนั้นน่ะ และในฉากต่อๆมา ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้รักนางเอกอย่างดูดดื่ม หรืออย่างรุนแรงเหมือนพระเอกหนังโรแมนติกทั่วๆไป คือเขารักนางเอกน่ะแหละ แต่มันมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายอยู่ในชีวิตและอารมณ์ของเขาด้วย ความรักเป็นเพียง "หนึ่งในหลายๆสิ่ง" ในชีวิตของเขา ความรักไม่ใช่ "ทุกสิ่งทุกอย่าง" ในชีวิตเขา และเราชอบการสร้างตัวละครพระเอกแบบนี้ในหนังโรแมนติกมากๆ

เปรียบเทียบง่ายๆก็คือว่า เราเกลียดปฏิกิริยาแบบที่พระเอกสองคนใน FROM BANGKOK TO MANDALAY มีต่อนางเอกสองคนในฉากที่เจอกันครั้งแรกน่ะ แต่ใน LA LA LAND นั้น สิ่งที่พระเอกทำกับนางเอกในฉากร้านอาหารตอนต้นเรื่อง มันเป็นสิ่งที่แตกต่างจากใน FROM BANGKOK TO MANDALAY หรือในหนังรักเรื่องอื่นๆ เราก็เลยชอบสุดๆ ชอบการออกแบบตัวละครพระเอกที่โทสะมีอำนาจเหนือราคะแบบนี้

2. แต่หนังเรื่องนี้ก็อาจจะไม่ได้ติดอันดับประจำปีเราแบบสูงมากนักนะ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของหนัง เพราะเรามักจะมีปัญหาแบบนั้กับหนังโรแมนติกทั่วๆไป ซึ่งรวมถึงหนังเพลงที่ดีสุดๆอย่าง THE UMBRELLAS OF CHERBOURG (1964, Jacques Demy) และ THE YOUNG GIRLS OF ROCHEFORT (1967, Jacques Demy) ด้วย และปัญหานั้นก็คือว่า เรามักจะ "ไม่สะเทือนใจอย่างรุนแรง" กับเรื่องราวความรักน่ะ ความสะเทือนใจที่เราได้รับจากหนังรักแบบนี้ มันคงอยู่กับเราแค่แป๊บเดียวเท่านั้น เรามักจะอินกับหนังแนวอื่นๆมากกว่า


ASSASSIN'S CREED (2016, Justin Kurzel, A+25)

เปิดปีด้วยหนังเรื่องนี้ค่ะ ค่อนข้างพอใจทีเดียว ชอบบรรยากาศ ชอบความขลัง ชอบการวางมาดของตัวละคร นักแสดงเล่นดีเกินบทมากๆ เหมือนหนังเรื่องนี้กับ KING COBRA ขาดเกินกันคนละส่วน คือหนังเรื่องนี้เราชอบการกำกับ, การถ่ายภาพ, องค์ประกอบศิลป์ หรือ "สไตล์" แต่เนื้อเรื่องพื้นฐานมันไม่น่าสนใจ ในขณะที่ KING COBRA เนื้อเรื่องพื้นฐานมันดีสุดๆ แต่ดูเหมือนมันด้อยด้านองค์ระกอบศิลป์, การกำกับ, การถ่ายภาพ 

เราว่า Justin Kurzel เก่งด้านการใช้ดนตรีประกอบ และการตัดต่อด้วยแหละ แต่ขาดความสามารถด้านคิวบู๊ เหมือนช่วงท้ายเรารู้สึกสนุกตื่นเต้นเพราะเขาตัดต่อได้เข้ากับดนตรีประกอบที่เร่งเร้ามากๆ แต่ไม่ได้สนุกเพราะคิวบู๊แบบหนังจีนฮ่องกง

จริงๆแล้วฉากท้ายของหนังก็แอบผิดหวังนะ คือแทนที่มันจะบู๊สะบั้นหั่นแหลกแบบหนังฮ่องกง มันกลับทำตัวเป็นหนังอาร์ตแทน คือเน้นการโพสท่าในการฆ่า แทนที่จะเน้นความลุ้นระทึกในการฆ่า 555 

สรุปว่าถ้ามีภาคสอง ก็ขอให้คงบรรยากาศ ความขลัง การถ่ายภาพ องค์ประกอบศิลป์ นักแสดงแบบเดิมไว้ แต่ขอให้จ้างคนมาออกแบบคิวบู๊ให้มีนมันส์ยิ่งขึ้นด้วย

IT'S A WONDERFUL LIFE (1946, Frank Capra, A+30)

 ชอบมากที่พระเอกของหนังเรื่องนี้กับพระเอกของ SWORD MASTER (2016, Derek Yee) ใช้วิธีการเดียวกันในการเลือกผู้หญิงมาเป็นแฟน โดยใน IT'S A WONDERFUL LIFE นั้น พระเอกถาม Violet ว่า อยากไปเดินตีนเปล่าย่ำสนามหญ้ากับเขาไหม พอ Violet (Gloria Grahame) ตอบว่าไม่ พระเอกก็ทิ้งเธอไปหาแมรี่ (Donna Reed) แทน ส่วนใน SWORD MASTER นั้น พระเอกขอให้มู่หยงชิวตี้ย่ำโคลนทำนากับเขา พอมู่หยงชิวตี้ปฏิเสธ พระเอกก็ทิ้งเธอไปหากะหรี่สาวใจเพชรแทน ดิฉันชอบผู้ชายแบบนี้มากๆเลยค่ะ
DANGAL (2016, Nitesh Tiwari, India, A+30)
 เลือกปิดปีด้วยหนังเรื่องนี้ค่ะ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ยกให้เป็นหนึ่งในหนังกีฬาที่ชอบที่สุดในชีวิตเลย ดูแล้วหัวใจจะวาย เตรียมเข้าอันดับประจำปี 2017 ได้เลย

PASSENGERS (2016, Morten Tyldum, B+ )
spoilers alert
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
เราคงชอบหนังเรื่องนี้ในระดับ A+30 ถ้าหากช่วงกลางของเรื่องนี้ หนังพลิกไปกลายเป็นว่า ที่ผ่านมาเป็นจินตนาการของพระเอก ว่าถ้าหากเขาปลุกนางเอกขึ้นมา แล้วความสัมพันธ์มันจะลงเอยด้วยความเจ็บช้ำยังไง เขาก็เลยตัดสินใจทำตัวเป็น "คนดี" ไม่ปลุกนางเอก เขาทนอยู่อย่างเหงาๆไปเรื่อยๆ แล้วในวันนึงโชคก็เข้าข้างเขา Laurence Fishburne ฟื้นขึ้นมา ทั้งสองฝ่าฟันอุปสรรคอย่างยากลำบากในการซ่อมยานด้วยกีน แล้วในที่สุดความเหงาและความเงี่ยนก็ทำให้พระเอกกับ Laurence Fishburne....

DETECTIVE CONAN EPISODE ONE (2016, Yasuichiro Yamamoto, Japan, animation, A+)
ชอบตัวละครฆาตกรในสวนสนุกในหนังเรื่องนี้มากๆ


หนังสั้นไทยที่เราชอบเป็นอันดับที่ 49 ของปี 2016 คือ LUCKY (2016, Jeeraporn Wichaidist) ชอบความเงี่ยนผู้ชายของนางเอกหนังเรื่องนี้มากๆ ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยเดียวกับที่ทำให้เราชอบหนังเรื่อง SANTI-VINA (1954, Marut), A GAS STATION (2016, Tanwarin Sukkhapisit) และ 21 NIGHTS WITH PATTIE (2015, Arnaud Larrieu + Jean-Marie Larrieu) อย่างมากๆเช่นกัน เพราะหนังทั้งสามเรื่องนี้ก็มีตัวละครหญิงที่กล้าแสดงออกถึงความต้องการทางเพศอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกัน

จุดหักมุมของ LUCKY ก็ดีมากๆ ถือเป็นหนึ่งในหนังที่หักมุมได้อย่างสะบึมทรวงที่สุดในปี 2016 


No comments: